ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่เก่ง ธนวโร
วัดกิตติราชเจริญศรี (วัดบ้านนาแก) อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่เก่ง ธนวโร วัดกิตติราชเจริญศรี (วัดบ้านนาแก) พระอริยะสงฆ์ที่สืบทอดจริยาวัตรปฏิบัติสมถะเรียบง่าย มีเมตตาสูงอ่อนน้อมถ่อมตน ศิษย์พระครูวิโรจน์รัตโนบล จ.อุบลราชธานี
● ชาติภูมิ
พระครูมงคลกิตติวัฒน์ (หลวงปู่เก่ง ธนวโร) นามเดิมชื่อ “เก่ง วงศ์สวัสดิ์” เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๙ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๔๖๖ แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๙ ปีกุน เป็นวันธงชัย โดยมีพี่น้อง ๖ คน ในวัยเด็กเป็นคนรูปร่างผอมบาง ตัวเล็กคล่องแคล่ว มีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
● บรรพชา
เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยมี ญาท่านพรหมา เจ้าอาวาสบ้านระเว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบรรพชาเป็นสามเณร ในขณะนั้น พระครูวิโรจน์รัตโนบล (ญาท่านดีโลด) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีในอดีต ได้เป็นประธานในการสร้างอุโบสถบ้านโพธิ์ศรี และบุรณะอุโบสถเก่าแถบตำบลโพธิ์ศรีและตำบลระเว
เมื่อมีพระเถระผู้ใหญ่มาในท้องที่พระสังฆาธิการในละแวกใกล้เคียง จึงได้ทำการต้อนรับ รวมทั้งญาท่านพรหมาและพระในปกครอง
ขณะเป็นสามเณรและทำหน้าที่อุปฐากพระอุปัชฌาย์ได้เห็นอาจริยาวัตรของพระเถระผู้ใหญ่ รวมทั้งพระครูวิโรจน์รัตโนบล ซึ่งท่านได้เห็นสามเณรเก่งก็เกิดความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง และได้ทราบว่าเป็นคนที่มีต้นตระกูลมาจากบ้านกระโสบ-หมากมี่ อำเภอเมืองด้วยแล้ว จึงเอ็นดูเป็นพิเศษ
● อุปสมบท
เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี จึงได้เข้าอุปสมบท ที่วัดบ้านหัวดอน โดยมี ญาท่านรัตน์ เจ้าอาวาสวัดบ้านหัวดอน เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ธนวโร” แปลว่า “ผู้มีทรัพย์อันประเสริฐ”
เมื่ออุปสมบทแล้วได้มาจำพรรษาที่วัดกิตติราชเจริญศรี บ้านนาแก ศึกษาการปฏิบัติตามแนวทางของครูบาอาจารย์ได้ออกธุดงค์ไปในแถบแม่น้ำมูลตอน ล่าง เลียบลำน้ำโขงตามรอยธรรมของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ข้ามไปในประเทศลาว ภูมะโรง เป็นระยะเวลา เกือบ ๑ ปี ในการเดินธุดงค์นั้นหลวงปู่ได้ติดเชื้อไข้มาลาเลีย แต่ยังฝืนเดินไปเรื่อยจนไข้ขึ้นหนักมาก จึงได้กลับมาพักรักษาด้วยยาสมุนไพรจนหายขาด
หลังจากหายเป็นปรกติแล้ว หลวงปู่เก่ง สงสัยว่ารากไม้ทำไมจึงรักษาโรคต่างๆ ได้ จึงเรียนตำรายารากไม้จากพ่อหมอทุม ซึ่งเป็นชาวบ้านหนองโพ ตำบลโพธิ์ศรี และศึกษาวิธีการใช้ยารักษาคนกับอาจารย์เป็นระยะเวลา ๙ ปี จนมีความเชี่ยวชาญ และได้เรียนวิชายาสมุนไพรเพิ่มเติมจากหมอยาชาวจีนอีกเป็นระยะเวลา ๕ ปี จนมีความแตกฉานในเรื่องยารากไม้และยาสมุนไพรเป็นอย่างยิ่ง มีผู้ป่วยมารับการรักษามากและมีชื่อเสียงในขณะนั้น
ข่าวการรักษาคนป่วยของหลวงปู่เก่งได้ขยายไปในวงกว้างและมีผู้มารักษาเป็น จำนวนมาก ทราบข่าวถึงหูโจรใจบาปคิดว่าหลวงปู่คงจะมีเงินจากการรักษามาก จึงได้รวมตัวกันเข้าปล้นสะดมในเวลากลางคืนพวกโจรใจบาปทั้งหลาย ทั้งตี ทั้งฟัน ทั้งแทง และยิงกะเอาให้ตาย จนหลวงปู่สลบไปและรื้อค้นได้เงินไปจำนวนหนึ่ง และของมีค่าที่หลวงปู่เก็บรักษาไว้ไปอีกหลายชิ้น พอฟื้นขึ้นมาหลวงปู่มีอาการแค่หัวโน และถลอกตามแขนขานิดหน่อยเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
คนป่วยบางจำพวกที่รักษาด้วยยาสมุนไพรไม่หายคือคนป่วยโรคจิต คือโรคจิตเกิดจากธาตุในกายกำเริบ อีกอย่างคือโรคจิตจากการเข้าแทรกด้วยผู้มีอำนาจกว่า (ผีเข้า) และโรคจิตที่เกิดจากการกระทำหรือที่เรียกว่าคุณไสย์ ด้วยความ เมตตาหลวงปู่เก่งจึงรักษาด้วยการขับไล่ผีร้ายออกไป ตามวิชาครูธรรมที่ได้เรียนธรรมสายมหาปราบ จนมีผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตและถูกคุณไสยที่ญาติพามารักษาและมอบให้หลวงปู่ รักษาเป็นจำนวนมาก บางคนดุร้ายมากถึงกับต้องล่ามโซ่ติดกับต้นไม้ใหญ่ไว้ (เป็นที่ชินตากับคนที่ มาหาหลวงตาในอดีต) หลวงปู่เก่ง ธนวโร ท่านก็เมตตารักษาด้วยพลังจิตควบคู่ไปกับยาสมุนไพรด้วย เมื่อหายขาดแล้วจึงได้ตามญาติมารับกลับไป หลวงปู่เก่งยังสามารถสื่อสารกับ เจ้าที่เจ้าทางได้ ปราบผีปอบ ผีเข้าเจ้าสูญ และทำหลักเขตหมู่บ้านตามตำราของอาจารย์พระครูวิโรจน์รัตโนบล (หลวงปู่ดีโลด) และ ญาท่านรัตน์พระอุปัชฌาย์
หลวงปู่เก่ง ธนวโร ท่านเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการรักษาด้วยยาสมุนไพร จึงมีผู้มาตามไปรักษาและตรวจเยี่ยมคนป่วยที่อยู่ต่างถิ่นระยะทางไกลและ กันดาร “เจ้าสีหมอก” ม้าคู่บารมีหลวงปู่ได้เมตตาเล่าให้ฟังว่าเป็นม้าที่พยศและดุร้ายมากถ้าไม่ ใช่เจ้าของมันจะกัดและไม่ยอมให้ขึ้นขี่ได้ง่ายๆ แต่วิ่งเร็วมากและมีความอดทนเป็นเยี่ยม
หลวงปู่เก่ง ธนวโร ขี่เจ้าสีหมอกไปรักษาคนป่วยในแถบ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอนาจะหลวย อำเภอตระการพืชผล อำเภอเขื่องใน อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเดชอุดม โดยเฉพาะบ้านบักมาย บ้านเม็กกุดเลา บ้านเม็กน้อย บ้านเม็กใหญ่ อำเภอเดชอุดม และบ้านท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จะนิมนต์หลวงปู่ไปเยี่ยมเป็นประจำทุกปี เวลาเทศกาลเข้าพรรษาจะมีคณะลูกศิษย์ที่ครอบขันครูรักษาจะมาส่งขันดอกไม้ ประจำปีนับพันขัน
หลวงปู่เก่ง ธนวโร ยังเก่งเรื่องปลุกเสกวัตถุมงคล ด้วยความสมถะเรียบง่ายไม่โอ้อวด จึงมองเป็นเพียงแค่หลวงตาแก่ๆคนหนึ่ง แต่การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่มีพลังเข้มแข็งมาก และตั้งใจประคองจิตในเวลาปลุกเสก จนได้รับการนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลวัดอื่นอยู่เป็นประจำ
● มรณภาพ
พระครูมงคลกิตติวัฒน์ (หลวงปู่เก่ง ธนวโร) หรือ หลวงปู่ไก่ชน เจ้าอาวาสวัดกิตติราชเจริญศรี (วัดบ้านนาแก) ต.ระเว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบ จากโรคปอดติดเชื้อ หลังเข้ารับการรักษามานานหลายเดือน เมื่อเวลา ๐๗.๓๐ น. วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘ สิริอายุรวมได้ ๙๒ ปี พรรษา ๗๒