วันอังคาร, 8 ตุลาคม 2567

ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) วัดพระบาทโพนสัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว

ประวัติและปฏิปทา
ยาท่านเพ้า พุทธวังโส

วัดพระบาทโพนสัน
แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว

ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) วัดพระบาทโพนสัน
ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) วัดพระบาทโพนสัน

ญาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) เกิดเมื่อวันพุทธ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 ปีวอก พ.ศ. 2451 (ค.ศ.1908) ณ บ้านหนองกุ้ง ตำบลกุดบง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย บิดาชื่อ นายป้อง และมารดาชื่อ นางวันนา

เมื่ออายุได้ 11 ปี มารดาได้เสียชีวิต ท่านก็ได้บวชเป็นสามเณร (บวชหน้าไฟ) หลังเสร็จจากงานฌาปณกิจศพมารดาของท่าน ก็ได้ลาสิกขา เมื่ออายุได้ 12 ปี ท่านก็ได้บวชเป็นสามเณรอีกครั้ง ได้ศึกษาพระธรรมวินัย อักษรธรรม บาลีสันสกฤต อักษรไทย อักษรขอม จนมีความชำนาญสามารถอ่านออกเขียนได้

เมื่ออายุได้ 20 ปี ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ บ้านหนองกุ้งเหนือ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย มีความรู้ทางปริยัติธรรม พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ ศึกษาจบคัมภีร์มูลกัจจายน์ คัมภีร์พระไตรปิฎก จากสำนักพระอาจารย์สีทัตต์ สุวรรณมาโจ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติสมถกัมมัฏฐาน และวิปัสสนากัมมัฏฐาน สำเร็จธรรมขั้นสูง

หลวงปู่สีทัตถ์ สุวรรณมาโจ วัดพระธาตุท่าอุเทน
หลวงปู่สีทัตถ์ สุวรรณมาโจ วัดพระธาตุท่าอุเทน

หลังจากนั้นท่านได้จาริกธุดงค์ไปในที่ต่างๆ ทั่วสารทิศ เช่น ไทย กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์ สีลังกา อินเดีย และทั่วทุกภาคในประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายที่ยาท่านเพ้าได้มาจำพรรษา ท่านได้ก่อสร้างและปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม และเสนาสนะต่างๆ

ญาท่านเพ้า พุทธวังโส ท่านเป็นพระที่มีนิสัยโอบอ้อมอารี มีความเมตตาธรรมสูง ญาท่านเพ้า ท่านได้ร่วมก่อสร้างพระธาตุต่างๆ กับพระอาจารย์ของท่าน ยาคูสีทัตต์ ญาณสัมปันโน เช่น พระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลาหลายปีจึงสำเร็จ หลังจากนั้นก็ได้กลับมาบ้านเกิดของท่าน คือบ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย และได้นำพาออกตนญาติโยมชาวบ้านร่วมกันก่อสร้างวัดขึ้นใหม่หนึ่งวัด ชื่อวัดจอมเพชร ยาท่านพระอาจารย์สีทัตต์ สุวรรณมาโจ ก็ได้ชักชวนให้ไปร่วมก่อสร้างพระธาตุ ครอบรอยพระพุทธบาทบัวบก ที่อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลาร่วม 14 ปี จีงสำเร็จ

หลังจากนั้น ยาท่านเพ้า หรือ พ่อแม่เพ้า พุทธวังโส (ພໍ່ແມ່ເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) ก็ได่เดินทางข้ามแม่น้ำโขงมานครหลวงเวียงจันทน์ ได้มาพักจำพรรษา อยู่ที่วัดอินแปง นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นเวลานานพอสมควร และท่านมีความเห็นว่าไม่มีความสงบ เนื่องจากมีคนอาศัยอยู่หนาแน่น ยากที่จะปฏิบัติพระธรรมวินัยให้บริสุทธิ์ได้

ดังนั้น พระอาจารย์สีทัตต์ ญาณสัมปันโน และยาท่านเพ้า พุทธวังโส ทั้งสองท่านจึงได้เดินทางลงมาพักจำพรรษาที่วัดนาโท้ม หรือวัดบ้านนาไซ ในปัจจุบัน และได้ร่วมกันก่อสร้างพุทธสีมาขึ้นหนึ่งหลัง ต่อมาท่านคำผา สุวันนะวง ซึ่งเป็นเจ้าเมืองในตอนนั้น ได้นิมนต์พระอาจารย์ทั้งสองท่าน ลงมานำพาออกตนญาติโยมก่อสร้าง วัดพระบาทโพนสัน ตั้งแต่ปี 1933 (พ.ศ. 2476) เป็นต้นมา

เป็นเวลากว่า 52 ปีที่ ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) ได้มาก่อสร้างบูรณะและปฏิสังขรณ์ วัดพระบาทโพนสัน และได้ถึงแก่มรณภาพลง

ยาท่านถวิล (ຍາທ່ານຖະຫວິນ ວັນນະຣາຊ) วัดพระบาทโพนสัน
ยาท่านถวิล (ຍາທ່ານຖະຫວິນ ວັນນະຣາຊ) วัดพระบาทโพนสัน

หลังจากนั้น ยาท่านถวิล สิรวัดทะโน (ຍາທ່ານຖະຫວິນ ວັນນະຣາຊ) ก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา นับเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3

ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) วัดพระบาทโพนสัน (ວັດພະບາດໂພນສັນ)
ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) วัดพระบาทโพนสัน (ວັດພະບາດໂພນສັນ)

ยาท่านเพ้า พุทธวังโส (ຍາທ່ານເພົ້າ ພຸດທະວັງໂສ) วัดพระบาทโพนสัน (ວັດພະບາດໂພນສັນ) เมืองท่าพระบาท แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ท่านได้ถึงแก่มรณภาพ ในวันอาทิตย์ที่ 1 แรม 8 ค่ำ เดือน 4 ปีวอก พ.ศ. 2524 สิริรวมอายุได้ 84 ปี พรรษา 64

ในด้านวัตถุมงคลนั้น ยาท่านเพ้า พุทธวังโส ท่านได้สร้างเอาไว้มีหลายรูปแบบแตกต่างกันไป เป็นต้นว่า ตะกรุด พระปิดตา พระบูชา และอื่นๆ สิ่งที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงมากที่สุดสำหรับวัตถุมงคลของ ญาท่านเพ้า คือ พระปิดตา มหาอุด (วงการพระเครื่อง เรียกว่า พระปิดตาวัดพระบาทฯ) ส่วนผู้สะสมพระเครื่องไทยเรียกว่า พระปิดตารถถัง ญาท่านเพ้า วัดพระบาทโพนสัน ก็สุดแล้วแต่จะเรียกตามความสะดวก ทั้งนี้ พระเครื่องของยาท่านเพ้า ล้วนแต่ได้รับความนิยมทุกรุ่น เนื่องจากมีอภินิหาร ปาฏิหาริย์ต่างๆ เกิดขึ้นกับผู้ศรัทธามากมาย

พระปิดตา ญาท่านเพ้า วัดพระบาทโพนสัน สปป.ลาว
พระปิดตา ญาท่านเพ้า วัดพระบาทโพนสัน สปป.ลาว