วันจันทร์, 14 ตุลาคม 2567

อภินิหาร หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้วเหนือ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

อภินิการ หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้วเหนือ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

พระครูสันธานพนมเขต (หลวงปู่สนธิ์ สุรชโย) วัดท่าดอกแก้วเหนือ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

โดย ท่านพระครูธรรมสารวิลาส เจ้าอาวาสวัดศรีชมชื่น บ้านคำพอก ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม


ปัจจุบันอายุ 72 ปี พรรษา 52 ท่านเป็นพระลูกศิษย์องค์หนึ่งที่ได้ศึกษาวิชาอาคม ข้อวัตรปฏิบัติ ในครั้งหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ได้กรุณาเล่าให้ฟังมีดังต่อไปนี้ ควรใช้วิจารณญาณในเรื่องเหล่านี้

  • กิจวัตรของหลวงปู่สนธิ์ ท่านเป็นพระที่เคร่งใน ศีลวัตร ข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ และมีครรลองหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะท่านคือท่านจะนั่งสมาธิทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. – 16.00 น. ทุกวันเป็นปรกติ และเมื่อครบเวลากำหนดท่านจะตีฆ้อง 3 ที และเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ และผู้สนใจเรียนศาสตร์วิชา อาคมเข้ามาเรียนกับท่านโดยไม่เว้นแต่ละวัน นอกเสียจากป่วยไข้ ไม่สบาย หรือไม่อยู่
  • วิชาอาคม ท่านมีเยอะ หลวงปู่สนธิ์ ท่านได้กล่าวกับไว้ว่าวิชาอาคมท่านมีเยอะใครที่จะเรียนตามท่านแล้วจบ ต้องเรียนกับท่านอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งคนที่เรียนจากท่านเยอะสุดคือลุงจารย์จอม บ้านปากทวย ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ก็เรียนจากท่านได้แค่ครึ่งเดียวเอง
  • รักษาคนผีเข้า เจ้าทรง ไสยศาสตร์ มนต์ดำ มีคนเป็นจำนวนมากที่มารักษากับหลวงปู่สนธิ์ในสมัยนั้น
    สำหรับผู้ที่มารักษา ท่านเสกเป่า โดยคาถาวิชา ที่หัว ที่ขมับ คนที่ผีเข้า ก็จะดิ้นชัก ดิ้นงอ และสลบไป
    ไม่นานก็จะลุกขึ้นได้เอง อัตโนมัติ หายเป็นปรกติ ยังความอัศจรรย์ผู้พบเห็นและญาติๆของผู้ที่มารักษายิ่งนัก
  • ทหารหลั่งไหลมาวัดท่าดอกแก้วเหนือ เมื่อประมาณ พ.ศ.2484 ในครั้งนั้นได้เกิดภาวะสงครามอินโดจีน ที่เวียดนามยังผลให้ทหารอาสาที่เป็นคนไทยเป็นจำนวนมากออกเสาะแสวงครูอาจารย์ หลวงปู่หลวงตา ที่มีของดีไว้ป้องกันตัว ให้แคล้วคลาด หลวงปู่สนธิ์ก็เป็นพระองค์หนึ่งที่มีชื่อเสียง พุทธิคุณ แคล้วคลาด คงกระพัน และมหานิยม ในแถบนี้ ซึ่งท่านก็ได้ให้ความอนุเคราะห์ทหาร หาญ เหล่านั้นด้วยการ สักยันต์หมวกเหล็ก โดยโกนผมและสักยันต์บนศีรษะ เมื่อสักแล้วจะเป็นลักษณะคล้ายวงกลม ครอบอยู่บนศีรษะ คนที่สักให้ตอนนั้นคือ จารย์จำปา ท่าเข อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าดอกแก้วซึงเสียชีวิต นานแล้ว และหลวงปู่สนธิ์ท่านจะปลุกเสก สวดคาถาวิชาอาคม เป่าหัว และพรมน้ำมนต์ให้ หากใครกลัวที่จะสักท่านก็เขียนยันต์หมวกเหล็กใส่ใบลาน 2-3แผ่น แล้วนำไปประกอบกันบนหมวกทหารที่จะออกรบ หลังจากภาวะสงครามยุติ ปรากฏว่าผู้ที่มารับของดีจากท่านไม่มีใครเสียชีวิตในสงครามนี้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างก็กลับมากราบหลวงปู่สนธิ์วัดมาบอกเล่าให้ฟัง แม้ลูกปืนจะถูกยิ่งจากข้าศึกออกมาเป็นเหมือนสายฝน ก็ไม่ถูกทหารที่มีของดีจากท่านนี้แต่คนเดียว แต่ที่ที่ไม่มีของดีกับล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่หน้าอัศจรรย์ยิ่งนัก
  • ตะกรุดโทน เก้าแป้ เก้าหย้อ ที่เลื่องชื่อ เป็นตะกรุดที่ท่านหลวงปู่สนธิ์สร้างขึ้น ทำจากตะกั่ว ลงอักขระ และอธิฐานจิต เป็นตะกรุดที่ดั่งมากในสมัยนั้นที่นอกจากลงยันต์แล้วในเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน เพราะมีทหาร และคนไม่น้อยที่มีประสบการณ์ ในเรื่องปืนยิ่งไม่ออก และยิ่งไม่เข้า สำหรับผู้มีตะกรุดนี้
    ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ครอบครองตะกรุดนี้คือห้ามหักกิ่งไม้ ใบไม้ มารองนั่ง นอน โดยเด็ดขาด
  • ปราบพยศไทข่า ประเทศลาว ในครั้งหนึ่งท่านได้ไปธุดงค์ในฝั่งประเทศลาว ได้พบชนเผ่าไทข่า ซึ่งเต็มไปด้วย มนต์ดำ ไสยศาสตร์ ว่าน หรือพวกเล่นของ ซึ่งในครั้งนั้นท่านได้ปักกดใกล้หมู่บ้าน ได้มีคนที่เก่งวิชาในหมู่บ้าน เมื่อเห็นท่านก็จะลงของกับท่าน โดยเขาว่าเขาคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า ในขณะนั้นเขาได้แสดงโชว์หลวงปู่สนธิ์ก่อน ท่านได้ดูแล้ว ขีดเส้นบนพื้นดิน แล้วให้คนนั้นเดินเลยเส้นที่ขีดเข้ามามาแสดงใหม่ ปรากฏว่าฟันเข้าจนเลือดไหลเป็นจำนวนมาก และท่านก็ได้เมตตา ใช้คาถาคัดห้ามเลือดให้หยุดในทันที ทำให้คนนี้ก้มกราบ และขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่าน
  • ไทข่ามาแสดงฤทธิ์ที่วัดท่าดอกแก้วเหนือ หลังจากการธุดงค์ในครั้งนั้น ยังผลชื่อเสียงท่านเป็นที่รู้จัก เกียรติคุณท่านในหมู่บ้านที่เป็นไทข่าและหมู่บ้านใกล้เคียง ทำให้พวกที่เก่งวิชา อาคมในแถบนี้ต้องการเอาคืน ต้องการพิสูจน์ใครแน่จริง จึงมีการตามมาที่วัด โดยหลวงปู่สนธิ์ท่านก็ให้ไปพักที่กุฏิ รับรอง แขก
    ในเวลาค่ำคืน การแสดงฤทธิ์ก็เกิดขึ้น ไทข่าที่มาพักก็ นำเบ็ด ออกมาตกที่หน้าต่างที่พัก ซึ่งอยู่ในวัดบนพื้นดิน และเขาก็ได้ปลาติดเบ็ดเป็นพวกปลาดุก ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เมื่อหลวงปู่สนธิ์รู้แล้ว ท่านจึงกำหนดจิตให้ปลานั้นกลายเป็นงูตัวใหญ่ ติดเบ็ดขึ้นมา จึงทำให้ไทข่าผู้นั้นตกใจ ร้องตะโกนลั่นวัด กลัวงู และหนีกลับกลางคืนเลย และเมื่อรุ่งเช้าชาวบ้านไปวัดก็มาบ่นว่าปลาที่หามาได้นำมาขัง ไว้ในแอ่ง ในโอ่ง หาย หลวงปู่สนธิ์ก็ยิ้มให้และนิ่ง สงบ โดยไม่ได้บอกชาวบ้าน นอกจากเล่าแก่ลูกศิษย์ฟัง
  • ฝรั่ง มาวัดท่าดอกแก้วเหนือ ฝรั่งคนนี้เป็นหัวหน้าคุมงานทำถนน สาย นครพนม – มุกดาหาร สายริมโขง ในครั้งนั้นการตัดถนนและทำถนน ได้ทำการบุกเบิก ถนนโดยเครื่องจักรกลหนัก ไม่ว่ารถแทรกเตอร์ เครื่องมือต่างๆ รวมถึง การใช้ระเบิดเป็นเครื่องทุ่นแรง และเมื่อมาถึงภูเขาชื่อภูมโน การบุกเบิกที่นี้ก็ดำเนินหน้าต่อไป แม้ชาวบ้านที่นี้บอกว่าที่นี้เป็นที่เข็ดขลัง เป็นที่ชาวบ้านไม่ค่อยจะไปยุ่งเกี่ยว เพราะกลัว โดยเชื่อว่าเจ้าที่แรง ฝรั่งก็บอกบ้านว่าไม่กลัวผี กลัวอะไรหรอกเพราะมีระเบิด ระเบิดตูม ผี อะไรก็กระจายแล้ว เมื่อในยามค่ำคืน สิ่งที่ชาวบ้านเตือนไว้ สิ่งที่ไม่คาดคิดที่ ฝรั่งและคนงานได้สัมผัสในตอนนั้นคือ รถ ทั้งหมดเคลื่อนที่ได้เอง และบีบแตรเองกันหมด ยังความตื่นตระหนกต่อฝรั่ง และคนงาน ในรุ่งเช้าก็มีแต่คนกลัวไม่กล้าดำเนินงานต่อไป ฝรั่งจึงมาถามชาวบ้านในแถบนั้นจะทำอย่างไรดี และบอกว่าแย่แน่ ทำงานต่อไม่ได้แน่ ไม่เสร็จทันสัญญาแน่ ชาวบ้านในแถบนั้นก็รู้ ชื่อเสียงหลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้วเหนือจึงแนะนำฝรั่งนั้นให้มาหาท่าน และเมื่อถึงที่วัดก็มากราบ ขอร้องให้ท่านช่วย ท่านจะให้ตะกรุดยันต์ แล้วนำไปแขวนที่รถทุกคันที่ทำงาน และการทำงานทำถนนก็สำเร็จล่วง ปรากฏเป็นถนนสายนครพนม –มุกดาหาร สายริมโขงในถึงปัจจุบันนี้
  • คลายทิฐิหลวงปู่แก้ว หลวงปู่แก้วเป็นสหธรรมิก ที่มักจะไปธุดงค์ ไปไหนพร้อมๆกับหลวงปู่สนธิ์ ในครั้งหนึ่ง ในระหว่างทาง การเดินทางนี้หลวงปู่สนธิ์ได้เดินนำหน้า และหลวงปู่แก้วเดินตาม ด้วยความไม่ระวังหลวงแก้วได้เดินสะดุด รากไม้ ให้หัวขม้ำเล็กน้อย ด้วยความที่ท่านเป็นองค์หนึ่งที่มีคาถาอาคมในเรื่องคงกระพันชาตรี ท่านจึงไม่พอใจ รากไม้นั้นที่มาขวางทาง ท่านจึงกลับมาเตะรากไม้นี้ กะให้หน่ำใจ อีกที เมื่อหลวงปู่สนธิ์รู้ ทำไมถึงถือตัวขนาดนี้ ไม่แล้วๆไป ท่านจึงขีดเส้นบนพื้นในทางเดินไว้ สักพักหลวงปู่แก้วเดินมาก็สะดุดเส้นที่ขีดไว้ จนเลือดไหล และต้องให้หลวงปู่สนธิ์ คัด ห้ามเลือด เป่าคาถาห้ามเลือดให้ เลือดจึงหยุด และท่านก็ได้เตือนเรื่องการใช้คาถาฤทธิ์แก่หลวงปู่แก้ว

ที่มา : ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บ http://www.dhammajak.net