ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อสนิท ยสินฺทโร
วัดลำบัวลอย
อ.ปากพลี จ.นครนายก
หลวงพ่อสนิท ยสินฺทโร วัดลำบัวลอย พระเกจิคณาจารย์ชื่อดังผู้สร้างตำนานจระเข้โทนอันดับหนึ่งของเมืองไทย จ.นครนายก
◉ ชาติภูมิ
หลวงพ่อสนิท ยสินฺทโร วัดลำบัวลอย นามเดิมชื่อ “สนิท มีพงษ์” เกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๘ ณ บ้านบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี บิดาชื่อ “นายบุญ มีพงษ์” และมารดาชื่อ “นางเรือง มีพงษ์” มีพี่น้อง จำนวน ๗ คน ท่านเป็นบุตร คนที่ ๔
๑.นางบุญเรือน
๒.นางทองชุบ
๓.นางละม้าย
๔.พระครูวรเวทย์นิวิฐ (หลวงพ่อสนิท)
๕.นางจิต
๖.นางลำจวน
๗.นางเตี้ย
หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ท่านกำพร้ามารดาเมื่อยังเยาว์วัย ต่อมาบิดา ถึงแก่กรรมได้ย้ายมาอยู่กับพี่สาวที่ บ้านลำบัวลอย ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก
◉ อุปสมบท
เมื่อครบอายุบวชท่านได้อุปสมบทที่วัดท่าเรือ เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๑ โดยมี พระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจรูญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการทองพูนเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ยสินฺทโร”
และได้จำพรรษา อยู่ที่วัดลำบัวลอยซึ่งวัดนี้ตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๐ ยังเป็นวัดเล็กๆตั้งอยู่กลางทุ่งนา ระหว่างวัดเกาะกา ( ตั้งอยู่บ้านเกาะกา หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าเรือ อำเภอบางพลี จังหวัดนครนายก ) ขณะนั้นวัดลำบัวลอย ยังอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และ การคมนาคม ก็ยังไม่สะดวกสบาย เหมือนดังทุกวันนี้ เพราะเพิ่งเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่ ๒ และ สงครามมหาเอเซียบูรพา
ด้วยความอุตสาหะสนใจในการศึกษาของหลวงพ่อ ต้องเดินทางด้วยเท้าเป็นเวลานานไปร่ำเรียนวิชาแพทย์แผนโบราณกับพระอุปัชฌาย์ของท่าน รวมถึงเรียนวิชาอาคมกับ หลวงพ่อดํา วัดกุฏิ (ที่สร้างพระปิดตาพิมพ์ปักเป้าอันโด่งดัง) และยังได้เรียนวิชาการ สร้างจระเข้โทนจากพระอาจารย์เส็ง วัดสันทรีย์ (เป็นลุงแท้ๆ ของหลวงพ่อ) จนท่านมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมแขนงต่างๆ และได้ออกธุดงค์เพื่อฝึกจิตใจและได้เรียนวิชาเพิ่มเติมจากอีกหลายๆ พระเกจิอาจารย์
◉ การศึกษาด้านวิทยาคม
หลวงพ่อสนิท มีความสนใจทางโหราศาสตร์ และทางไสยศาสตร์ จึงได้เสาะหาอาจารย์ เพื่อร่ำเรียน คัมภีร์เลขยันต์ คาถาอาคม สรรพวิทยาคุณต่างๆ และ แพทย์แผนโบราณ จนแตกฉาน ชำนิ ชำนาญ ในการแก้คุณไสย การถูกกระทำย่ำยีจากศัตรู รอบรู้การแก้ สรรพพิษ ยาเบื่อ ยาเมา ยาสั่ง ตลอดจนคนที่มีอาการผิดปกติ ทางประสาท ท่านก็เมตตารักษา โดยท่าน ไปขอร่ำเรียนจากครูบาอาจารย์ดังต่อไปนี้
๑. พระอาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ วัดสันทรีย์ วิชาจระเข้
๒. พระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี วิชาแพทยแผนโบราณ
๓.หลวงพ่อทองดำ วัดโคกหม้อ จ.นครสวรรค์ เรียนวิชาวิทยาคม และ ตำรายาไทย การสูญฝี และ การรักษาโรคต่างๆ
๔.หลวงพ่อดำ วัดกุฎิ หรือ วัดศรีมงคล ชื่อเดิม คือ วัดกฎิศรีธรรม จ.ปราจีนบุรี เจ้าตำหรับ การสร้างพระปิดตา ตะกั่วดำ พิมพ์ปักเป้า อันลือเลื่อง การป้องกันยาสั่ง และ คงกระพันชาตรี
ตลอดเวลาท่านจะกลับมาพัฒนาวัดลําบัวลอยจนมีความเจริญรุ่งเรือง มีลูกศิษย์ให้ความเคารพนับถือ ช่วงที่ได้ปกครองวัดจะมีชาวบ้านเดินทางมาหาให้ท่านช่วยในสิ่งเดือดร้อนต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการดูดวงชะตา และรดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ของท่านเข้มขลังยิ่งนัก รวมถึงวัตถุมงคลที่ช่วยในเรื่องการค้าขายจะมีลูกศิษย์เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหาท่านบ่อยๆ และท่านมักจะรู้จิตใจของผู้ที่ไปหาว่าต้องการมาพบให้ช่วยเรื่องใด สร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่เดินทางไปหา และหลวงพ่อก็ช่วยเหลือสงเคราะห์ให้จนบอกกล่าวต่อๆ กันไปทําให้ท่านมีผู้คนเคารพนับถือเป็นจํานวนมาก และได้เดินทางมาร่วมทําบุญกับหลวงพ่อ ทําให้ท่านบูรณะวัดลําบัวลอย และวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี
ด้วยคุณงามความดีของท่านเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ “พระครูวรเวทย์นิวิฐ” และได้ตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์รวมถึงเป็นเจ้าคณะตําบลท่าเรือตามลําดับ
◉ มรณภาพ
หลวงพ่อสนิท ยสินฺทโร วัดลำบัวลอย นับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเมตตากรุณาต่อลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่งโดยไม่เลือกว่าผู้ที่มาหาจะยากดีมีจนอย่างไร จนเมื่อถึงปี พ.ศ.๒๕๔๒ วันที่ ๑๔ มีนาคม ท่านมรณภาพอย่างสงบรวมสิริอายุได้ ๗๔ ปี พรรษา ๕๑
หลังจากนั้นอีกสองปีได้มีงานพระราชทานเพลิงศพที่วัดลําบัวลอย ในวันอาทิตย์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔
◉ ด้านวัตถุมงคล
ในบรรดาเครื่องรางที่หลวงพ่อสนิท ได้จัดสร้าง ซึ่งมีทั้ง จระเข้ พญาเต่าเรือน นกสาริกา สะดือหนุมาน และ ฯลฯ ต่างมีอภินิหาร เป็นที่ประจักษ์มากมาย มีประสบการณ์เล่ากันมาคือเรื่องของพญาเต่าเรือน พญาเต่าเรือนของหลวงปู่สนิท จะแตกต่างจากของที่อื่น กล่าวคือท่านใช้หินแกะเป็นพญาเต่า ซึ่งท่านได้สร้างมาเรื่อยๆ มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดห้อยคอจนกระทั่งถึงขนาด ๓-๔ คนยก รุ่นที่ไม่ใช่หินแกะจะมีพญาเต่าเรือนกริ่งขนาดห้อยคอ และพญาเต่าเรือนขนาดบูชารุ่นสุดท้ายที่สร้างจากเนื้อโลหะ พญาเต่าเรือนนี้หลวงปู่จะสร้างอย่างพิถีพิถัน ตามตำนานโบราณ สมัยพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือน ปลุกเศกกระทั่งมีชีวิตจริงจึงถือว่าเสร็จพิธี ด้วยพลังจิตอันเข้มแข็งที่อัญเชิญพระพุทธบารมีลงมาประดิษฐานในพญาเต่าเรือน ทำให้เกิดอัศจรรย์แก่ศรัทธาญาติโยมที่นำไปบูชาเป็นอันมาก เช่นการทำมาค้าขายมีสภาพคล่อง มีลูกค้าและยอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และปาฏิหาริย์ที่ข้าพเจ้าและอีกหลายๆ คนได้ประจักษ์และเกิดปิติก็คือ การมีพระธาตุเสด็จมาเกาะที่กระดองพญาเต่าเรือน และการที่พญาเต่าเรือนหันเปลี่ยนทิศทางได้เองเป็นประจำ ในเรื่องของพระธาตุปาฏิหาริย์นอกจากจะเกิดที่พญาเต่าเรือนแล้ว ยังเกิดกับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างอย่างอื่นๆ ด้วย เช่นที่ จระเข้จันทร์เพ็ญ และพระบูชาปางเปิดโลก เป็นต้นฯลฯ
◉ จระเข้โทน รุ่น ๑
รุ่นที่ ๑ สร้างประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๙ เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานศพหลวงพ่อเส็ง วัดสันทรีย์
ซึ่งเป็นหลวงลุงของท่านโดยก่อนหน้านั้น หลวงพ่อสนิทเคยทดลองสร้างเพื่อทบทวนวิชาเป็นครั้งแรกโดยการเทหล่อที่ศาลาการเปรียญหลังเก่า แต่ทําจํานวนแค่สิบกว่าตัว สร้างด้วยเนื้อตะกั่ว มีน้ำหนักมากกว่าเนื้อตะกั่วรุ่นแรกเกือบเท่าตัว ศิษย์ที่ใกล้ชิดได้รับนําไปบูชาและมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อมีชาวบ้านที่นับถืออยากจะได้ ท่านจึงสร้างอย่างเป็นทางการครั้งแรกเพื่อนําไปแจกในงานนี้ โดยสร้างเป็นรูปจระเข้ลอยองค์ใต้ท้องตอกยันต์ “อิสวาสุ นะมะพะทะ” แบบแรกเทด้วยเนื้อตะกั่วตัวเดี่ยวๆ จํานวน ๗๙,๙๙๙ ตัว แบบที่สองจระเข้ลอยองค์แบบเป็นชุดสามกษัตริย์มีสามตัวชุบทอง เงิน นาก มีจํานวน ๕๐๐ ชุด ทั้งสองชนิดปัจจุบันมีราคาสูงและหาได้ยาก
◉ รุ่นที่๒ จระเข้รุ่น “ท.บ.”
มีลักษณะเหมือนจระเข้โทนรุ่นแรกสร้างด้วยเนื้อตะกั่วเช่นกัน แตกต่างตรงที่จะมีขนาดเล็กกว่าและช่วงหางที่ติดกับขาหลังจะเป็นรู ซึ่งรุ่นแรกจะตันไม่เป็นรูมีสองแบบแตกต่างกันแค่ด้านบนตัวจระเข้จะตอกยันต์ตัวอุและมีแบบตอกยันต์ตัวอุกับตอกอักษรย่อ ท.บ. ได้รับความนิยมพอๆ กัน สร้างในปี พ.ศ.๒๕๑๖ ด้วยมีศิษย์ที่ต้องการเพาะรุ่นแรกได้รับความนิยมมีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขาน ทําให้ครั้งนี้หลวงพ่อสร้างจํานวนมากถึง ๑๐๐,๙๙๙ ตัว เพื่อนําไปแจกทหาร ตํารวจตามชายแดน โดยหลวงพ่อทําพิธีปลุกเสกถึงสามเดือนจนครบหนึ่งไตรมาส และเป็นจระเข้ที่ทําให้เป็นที่รู้จักของนักสะสมบูชาพระเครื่องทั่วไป
◉ รุ่นที่ ๓ จรเข้โทนรุ่นจันทร์เพ็ญหรือรุ่นศรนารายณ์
นับเป็นจระเข้โทนรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อได้สร้างขึ้นโดยสร้างเป็นแบบจระเข้ลอยองค์ ด้านบนหลังจรเข้เป็นลูกศร (หมายถึงศรนารายณ์) มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่เนื้อโลหะผสมกะไหล่ทอง เงิน นาก อย่างสวยงาม จํานวนทั้งหมด ๓๓,๓๙๙ ตัว โดยทําการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๘ และหลวงพ่อได้เก็บเอาไว้ปลุกเสกในคืนวันเพ็ญจนครบ ๕ พรรษา เริ่มแจกให้ประชาชนร่วมทําบุญนําไปบูชาในปี พ.ศ.๒๕๓๓ นับเป็นรุ่นที่น่าบูชาเพราะหลวงพ่อปลุกเสกนานที่สุด
◉ จากใบปลิวที่ทางวัดจัดสร้างแจกพร้อมตัวจรเข้โทน บอกสรรพคุณการบูชาเอาไว้ว่า
มีมหาอํานาจ คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ คุ้มครองป้องกัน ภูติผีปีศาจเกรงกลัว แก้กันเสนียดจัญไร ถอดถอนเสน่ห์ยาแผดต่างๆ โดยการอาราธนาแช่ลงในน้ำ แล้วเอาน้ำนั้นมารับประทานและอาบ มีอํานาจทั้งทางสัตว์น้ำ และสัตว์บก ทางเมตตา ค้าขาย
◉ คาถาอาราธนาจรเข้โทน หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
“อมปลุกพญากุมภา ลุกแล้วอย่าไปที่อื่น ตื่นแล้วจงมารักษาค้า คุ้มครองกายาทั่วสารพังกาย พุทธัง สะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส ธัมมังเอหิมาเรโส สังฆังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรังคงดังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ”
ปลุกคาถา ๓ คาบ ๗ คาบ หรือจะใช้อย่างย่อก็ได้คือ “อิสวาสุ” ท่องเป็นประจําจะได้ผลดี
จระเข้โทน หลวงพ่อสนิท นับเป็นเครื่องรางที่น่าบูชาติวตัวเป็นที่สุด ด้วยพกพาง่ายใส่กระเป๋ากางเกง หรือสุภาพสตรีใส่กระเป๋าสะพายติดตัวเอาไว้เป็นดี เดินทางไปไหนปลอดภัยมั่นใจได้ ปัจจุบันรุ่นสองและรุ่นสามราคายังไม่แรงน่าสะสมเป็นยิ่งนัก
ด้วย หลวงพ่อสนิท วัดลําบัวลอย ได้รับการยกย่องว่าท่านมีวิชาอาคมสูง ปลุกเสกเครื่องรางได้ขลังยิ่ง เป็นที่กล่าวขานถึงผู้ที่ได้บูชาเครื่องรางของท่านว่าดีจริงเห็นผลได้จริง จึงเป็นหนึ่งในเครื่องรางที่อยากนําเสนอให้ทุกท่านหามาบูชาติดตัวแล้วจะรู้ว่าทําไมนักสะสมที่มีชื่อเสียง หรือ เซียนพระชื่อดังมีเครื่องรางของขลังราคาแพงหลายๆ ท่านยังไม่พลาดบูชาของขลังของหลวงพ่อสนิทด้วยความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี