ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร
วัดป่าวีรญาณ (บ้านตาเตน)
อ.เมือง จ.สุรินทร์
พระครูญาณกิจไพศาล หรือหลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร ศิษย์ในองค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล และ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
◎ ชาติภูมิ
พระครูญาณกิจไพศาล (หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร) นามเดิมชื่อ ใหญ่ จงบริบูรณ์ เกิดที่บ้านประทัดบุ ต.ไพล่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๒ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๘ (ปีกุน) มีพี่น้องทั้งหมด ๘ คนท่านเป็นบุตรคนสุดท้องของ คุณพ่อกจ และ คุณแม่แช่ม จงบริบูรณ์
◎ บรรพชา อุปสมบท
ปี พ.ศ.๒๔๙๘ หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร มีอายุ ๒๐ ปี บริบูรณ์ มีความศรัทธาประสงค์จะบวชรับใช้ในพระพุทธบวรศาสนา จึงขออนุญาต คุณโยมบิดา-มารดา อุปสมบท ก็ได้รับอนุญาตจึงได้บวชเป็นภิกษุ ณ วัดบูรพาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ ๑๗ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยมี หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ขณะนั้นยังดำรงค์ตำแหน่ง (พระรัตนากรวิสุทธิ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเปลี่ยน โอภาโส พระครูนวกิจโกศล สมณะศักดิ์ขณะนั้น (ปัจจุบันพระราชวิสุทธิธรรมรังสี) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาเสถียร สถิโร (ปัจจุบันพระรัตนากรวิสุทธิ์) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา “ญาณวีโร”
◎ ฐานา สมณะศักดิ์
• ปี พ.ศ.๒๕๐๗ (พรรษาที่ ๑๐) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูตรุ่นแรก ไปอบรมที่ จ.อุดรธานี
• ปี พ.ศ.๒๕๐๙ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูสมุห์ใหญ่ ญาณวีโร
• ปี พ.ศ.๒๕๑๐ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนปริยัติธรรมศาสนศึกษา วัดบูรพาราม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระปลัดใหญ่ ญาณวีโร
• ปี พ.ศ.๒๕๑๒ ได้รับคำสั่งให้ไปอบรม พระสังฆาธิการรุ่นแรก ที่วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา
• ปี พ.ศ.๒๕๑๔ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบล
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจสอบธรรมสนามหลวง ทั้งพระสมุห์ และพระปลัด ฐานาของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล (พระรัตนากรวิสุทธิ์)
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ (พรรษาที่ ๒๑) ได้รับเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในพระราชทินนามพระครูญาณกิจไพศาล (จต.ชต.)
• ปี พ.ศ.๒๕๓๐ (พรรษาที่ ๓๒) ได้เลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนา (จต.ชอ.วิ) ในพระราชทินนามเดิม คือ พระครูญาณกิจไพศาล
◎ การปฎิบัติศาสนกิจ
• ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดโคกลาว ต.ไพล่ อ.ปราสาทจ.สุรินทร์ เป็นเวลา ๔ พรรษา
• ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ท่านเจ้าคุณเทพสุทธาจารย์ (หลวงพ่อโชติ) ส่งไปหาสมเด็จมหาวีรวงศ์ เพื่อไปอบรมกรรมฐาน ที่วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพมหานคร และเมื่อได้รับการอบรมแล้วก็ได้กลับมาในปีนั้นเองและแวะลงพักที่วัดป่าสัทธาราม จังหวัดนครราชสีมา จึงได้พบและฟังธรรมเทศนาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร จึงเกิดปิติ และศรัทธาในองค์ จึงขอติดตามไปอยู่ถ้ำขามกับท่าน แต่ก็กลับมาขออนุญาตหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ก่อนปลายปีพ.ศ. ๒๕๐๒ จึงได้ไปอยู่ถ้ำขาม
• ปี พ.ศ.๒๕๐๒ – ๒๕๐๔ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ได้ให้หลวงปู่โชติ คุณสัมปันโน (พระเทพสุทธาจารย์) นำไปฝากมอบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งหลวงปู่ฟั่นท่านก็ได้รับไว้เป็นศิษย์ให้อยู่ด้วย และติดตามท่าน เมื่อท่านอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ขึ้นถ้ำขามหรือไปวิเวกธุดงค์ในสถานที่ต่างๆก็ติดตามท่านไปด้วยทุกแห่ง
• ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ สุขภาพไม่ค่อยดี หลวงปู่ฝั้น จึงให้จำพรรษา อยู่ที่วัดป่าอุดมสมพรกับท่าน ไม่ให้ขึ้นถ้ำขาม เพื่อการศึกษาและปฎิบัติธรรมใกล้ชิดตลอดเวลา พอออกพรรษาก็ได้เดินตามท่านไปธุดงค์ หาความวิเวก ที่ อ.นาแก หลายแห่ง ตามป่า และภูเขา ร่วมอยู่ปฎิบัติธรรมกับท่านเป็นเวลา ๕ ปี
• ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ปลายปีได้ทราบข่าวจากทางบ้านว่าโยมบิดาป่วย จึงกลับมา สุรินทร์ และพักอยู่ที่วัดบูรพาราม ในขณะที่พักอยู่เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของโยมบิดา หลวงปู่ดุลย์ อตุโล (พระรัตนากรวิสุทธิ์) ให้มาอยู่สร้างวัดตาเตน คือวัดป่าวีรญาณ ณ ปัจจุบันนี้ ซึ้งเป็นวัดปฎิบัติธรรมทุกวันนี้
• ปีพ.ศ. ๒๕๐๗ – ๒๕๐๘ ได้ทำหน้าที่พระธรรมทูตเดินธุดงค์เผยแพร่การปฎิบัติธรรม ไปตามตำบล และหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ พระครูญาณกิจไพศาลจึงมีลูกศิษย์อยู่เกือบทุกตำบล และหมู่บ้านในตัว จ.สุรินทร์ เป็นที่เคารพของญาติโยมและผู้ปฎิบัติธรรมเพระคำสั่งสอนของท่านที่เป็นหลักธรรมที่เข้าใจและปฎิบัติตามได้ง่ายและท่านเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อพลวง (อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์) ไปวิเวกตามป่า ภูเขา ในเขตประเทศเขมรหลายแห่ง พักอยู่แห่งละหลายๆวัน
• ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ – ๒๕๑๐ ได้เริ่มสร้างศาลาการเปรียญ ที่วัดป่าวีรญาณ ขนาดกว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๒๔ เมตร
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๒๕๑๒ ได้ริเริ่มชักชวนพุทธบริษัทสร้างวัดตะคร้อ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งทุกวันนี้เรียกว่า วัดจอมสุรินทร์
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้คิดฉลองศาลาการเปรียญ ที่วัดป่าวีรญาณ จึงได้อาราธนานิมนต์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และวัดถ้ำขาม พระอาจารย์สุวัจ สุวโจ วัดถ้ำสีแก้ว(อยู่บนภูพาน) พระอาจารย์อุ่น วัดบ้านโคก จ.สกลนคร มาในงานเพื่อให้ญาติโยมพุทธบริษัท ได้ฟังพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ยังความปลาปลื้มแก่พุทธบริษัทเป็นอย่างมาก
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ มาประจำเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าวีรญาณ บ้านตาเตน เริ่มพัฒนาวัด และสร้างวัตถุถาวร
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ต่อเติมศาลาการเปรียญ ในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จ ให้สำเร็จ และมีผู้ถวายที่ดินจำนวน ๑๓ ไร่
• ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ซื้อที่ดิน จำนวน ๙ ไร่ ในราคา ๖,๐๐๐ บาท (หกพันบาทถ้วน)เพื่อสร้างกุฎิรับรองโยม จำนวน ๑ หลัง
ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ (พรรษาที่ ๓๒ ) ได้รับเลื่อนสมณะศักดิ์จากพระครูชั้นตรี (จต.ชต.) เป็นพระครูชั้นเอกฝ่ายวิปัสนา(จต.ชอ.วิ.) ในพระราชทินนามเดิม(พระครูญาณกิจไพศาล)
ปัจจุบัน พระครูญาณกิจไพศาล (หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร) ท่านจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าวีรญาณ (บ้านตาเตน) อ.เมือง จ.สุรินทร์ ยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ อายุ ๘๗ ปี พรรษา ๖๗ (พ.ศ. ๒๕๖๔)
◎ โอวาทธรรม หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร วัดป่าวีรญาณ (บ้านตาเตน)
“..วางได้ ใจมันก็เบา ถือเอาไว้ ใจมันก็ทุกข์ อยากสุขอยากเบา เราต้องรู้จักปล่อยวาง..”
ที่มา :ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจ https://sia-wan.blogspot.com/