วันอังคาร, 3 ธันวาคม 2567

หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต วัดบางแก้วผดุงธรรม อ.บางแก้ว จ.พัทลุง

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต

วัดบางแก้วผดุงธรรม
อ.บางแก้ว จ.พัทลุง

พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม
พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม

หลวงปู่เปลื้อง ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่มีศีลาจารวัตรบริสุทธิ์งดงามองค์หนึ่ง แห่งจังหวัดพัทลุง

ท่านเป็นพระที่สงบเสงี่ยม รักสันโดษ ภาวนาอยู่เป็นนิจ ไม่ชอบเข้าหมู่พลุกพล่าน จิตใจท่านนั้น ทรงไว้ด้วยพรหมวิหารธรรมเสมอ

หลวงปู่เปลื้อง ท่านบวชเข้ามาในบวรพุทธศาสนา เมื่ออายุมากแล้วก็จริง แต่สมัยเป็นฆราวาส ท่านได้สร้างศีล ๘ รักษาสัจจะวาจา คือพูดจริง ทําจริง เป็นปีๆ เพื่อพิสูจน์จิตใจของท่าน ซึ่งท่านหลวงปู่เปลื้องกล่าวว่า..
ในครั้งแรกๆ นี้ มันไม่ใช่ของง่าย แต่ก็ถือหลักที่ว่า เกิดมาเป็นคนในชาติหนึ่งและได้พบพระพุทธศาสนา อันวิเศษเลิศล้ำในโลก เมื่อจะทําความดีสู้กิเลส ที่มันคอยดึงลงไม่ได้ ก็ขอให้มันตายไปเสียเลย เพราะเสียชาติเกิด สู้สัตว์เดรัจฉานไม่ได้ เพราะดูวัว-ควาย ที่เป็นสัตว์อันต่ำต้อย ขณะมันมีชีวิตอยู่ มันยังรู้จักทํางาน เมื่อมันตายไปแล้ว ยังเอาเนื้อ กระดูก หนัง มาทําประโยชน์ได้สารพัดประโยชน์

แต่คนเรา ขณะมีชีวิตอยู่ ทําความดีก็ไม่ได้ ตายไปเขาก็นำไปฝังหรือเผาทิ้ง หมดคุณค่า น่าสงสาร

หลวงปู่เปลื้อง ท่านมีความมานะพยายามในการปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญา เคร่งครัดต่อข้อวัตรปฏิบัติ และพยายามรักษาพระธรรมวินัย อย่างชนิดเอาชีวิตเป็น ประกัน เดิมพันเปลี่ยนจิตใจ เพื่อแลกกับความดีและมีความมั่นใจว่า ขอเกิดในชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ท่านหวังการหลุดพ้นจากอวิชชา

อวิชชา ความโง่เขลาเบาปัญญา ปิดทางคุณงามความดี มันทําให้เกิด แก่ เจ็บ ตาย หาความสิ้นสุดลงได้ไม่ เหมือนกับเส้นโซ่ไม่มีปลาย เวียนวนชาติภพอยู่ หารู้หนทาง ดังนั้น เมื่อเรารู้ว่าโลกมันเป็นอย่างนี้ ทําไฉนจึงจะตัดโซ่นั้นได้

ความจริงข้อนี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนอยู่แล้ว แม้ผู้ที่มีสติปัญญา ได้ออกศึกษาหาทางตัดโลกตัดภพ ก็ต้องสละกาย วาจา ใจ ออกบําเพ็ญเพียร มุ่งหาทางหลุดพ้นเสียซึ่งชาติ ชรา พยาธิ มรณะ ด้วยปัญญาบารมีธรรมดังนี้

หลวงปู่เปลื้อง ปญฺญวนฺโต ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง ตรงกับ วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๔๔๗ ณ อําเภอปากพยูน จังหวัดพัทลุง

ภายหลังโยมบิดาของท่าน ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่บ้านโตนด ตําบลนาปะขอ อําเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ต่อมาโยมบิดาของท่านเสียชีวิตลง ท่านได้อยู่ช่วยมารดาทําการงานทุกอย่าง ประกอบด้วยท่านเป็นคนขี้โรค เจ็บป่วยบ่อยที่สุด แต่น่าอัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่งคือ..

เวลาท่านป่วย จะมีเทวดา (ผู้ไม่ปรากฏนามมาเข้าฝัน) ในความฝันนั้น ท่านบอกตัวยาให้ เมื่อเทวดาบอกยา แล้วทํายาที่เทวดาบอกให้กิน ก็หายจากเจ็บป่วย

ความทุกข์ยากของมนุษย์ ย่อมมีด้วยกันทุกรูป-นาม แต่ความทุกข์นั้น อาจไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นชื่อว่า “ทุกข์” คําเดียวกัน ไม่ผิดจากนี้เลย…

ต่อมาอายุได้ ๑๘ ปี มารดาได้นําไปฝากวัด เพื่อขอบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดโตนด อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

ในพรรษาที่เป็นสามเณร ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย หาความรู้ สู้จิตใจตนเอง แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนัก

ต่อมาอายุ ๒๐ ปี ท่านจึงเข้าอุปสมบทต่อไป เพราะการศึกษาที่ตนมีอยู่ ยังไม่เข้าใจดีนัก จึงขอบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ เรียนวิชาต่อให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ท่านได้อุปสมบท ณ วัดโตนด แห่งเดิม คราวนี้ท่านบวชอยู่ ๒ พรรษา แล้วได้ลาสึกออกมาใช้ชีวิตฆราวาส ท่านได้แต่งงานมีครอบครัว มีบุตร ๕ คน

แต่การเป็นฆราวาสของท่านนั้น ได้รักษาศีล ๘ อยู่เสมอๆ ท่านมองเห็นชีวิตฆราวาส น่าเบื่อหน่าย ไม่มีแก่นสารอันใดเลย มองดูแล้วล้วนแต่มีทุกข์ภัย วน ตายวนเกิดอยู่ ไม่รู้ทาง ท่านจึง เห็นความไม่แน่นอนนี้ นํามาพิจารณาด้วยสติปัญญา

ในที่สุด ท่านได้สละชีวิตฆราวาสและครอบครัว ออกบวชอีกครั้งเป็นครั้งที่ ๒ เมื่ออายุ ท่านได้ ๖๐ ปี (ท่านบวชเมื่อแก่เฒ่า) ตรงกับ พ.ศ. ๒๕๐๖

ณ พัทธสีมาวัดท่ามะเดื่อ ทั้งนี้ท่านได้รับความเมตตา จากท่านเจ้าคุณพระพิศิษฐธรรมภาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูอดิสัยศีลวัฒน์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปญฺญวนฺโต

พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม
พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม

บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านได้ดําเนินจิต บําเพ็ญเพียรสมณธรรม ถือธุดงควัตร ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เยี่ยงพระอริยเจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่บัดนั้นมา คือ ท่านถืออิริยาบถ ๓ ตลอดชีวิต เช่น ยืน เดิน นั่ง ข้อวัตรพิเศษ ที่ท่านดําเนินมา ด้วยความมานะพยายามยิ่ง คือ ไม่นอน “เนสัชชิก” ตั้งแต่วันเริ่มบวช จนกระทั่งมรณภาพ

หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต ท่านบวชเข้ามาโดยถือปฏิบัติ อย่างเคร่งครัดเฉพาะ คือ ถือ ธุดงควัตร ๖ ข้อ
๑. ถือบิณฑบาตเป็นวัตร
๒. ฉันหนเดียวเป็นวัตร
๓. ฉันในบาตรเป็นวัตร
๔. ห้ามภัตอันนํามาถวาย เมื่อภายหลังเป็นวัตร
๕. การอยู่ในเสนาสนะอันท่านจัดให้อย่างไรเป็นวัตร
๖. การนั่งเป็นวัตร คือ ไม่ นอนเลย ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน

พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม
พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม

นอกจากนั้นถือโดยปกติ หลวงปู่เปลื้อง ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติ ที่ไม่ยอมอยู่นิ่ง ท่านออกเดินธุดงค์ไปในถิ่นต่างๆ ทุกภาคในเมืองไทย และได้เข้านมัสการครูบาอาจารย์ ที่เลิศล้ำด้วยคุณธรรมต่าง ๆ ในสายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อยู่เสมอๆ อาทิเช่น หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี , หลวงปู่หลุย จันทสาโร , หลวงปู่หล้า เขมปัตโต , หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เป็นต้น

◎ เมื่อหลวงปู่หลุยนิมิตเห็นหลวงปู่เปลื้อง
หลวงปู่หลุย จันทสาโร ได้รับกิจนิมนต์เกิดทางไปปักษ์ใต้พันที่วัดปะกิม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้นิมิตเห็นหลวงปู่เปลื้องฯ ได้บอกให้ญาติโยมไปตามหาหลวงปู่ “พระไม่นอน” ให้ได้ถ้าไม่ได้พบ ท่านจะไม่กลับกรุงเทพฯ พวกญาติโยมไม่มีใครรู้จักหลวงปู่สักคน เที่ยวสืบถามก็ได้ทราบว่าพระไม่นอน คือหลวงปู่เปลื้อง ซึ่งหลวงปู่ก็ได้รับกิจนิมนต์ไปพักที่วัดปะกิมเหมือนกัน หลวงปู่หลุย จึงได้พบกับหลวงปู่ตามที่ต้องการเมื่อนางศิริพร ลูกสาวคนโตของหลวงปู่ตามไปใส่บาตรถวายอาหารที่หลวงปู่สัปปายะ มีข้าวกล้อง ผักผลไม้ ดอกไม้กินได้ หลวงปู่ได้บอกให้นางศิริพร ไปกราบนมัสการหลวงปู่หลุย หลวงปู่หลุยบอกว่า มีบุญที่ได้เกิดเป็นลูกสาวหลวงปู่เปลื้อง ต่อมาทั้งสององค์ได้รับกิจนิมนต์ให้ไปพักที่วัดควนเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หลวงปู่หลุยได้ขอทดสอบหลวงปู่ ๓ คืน กลางคืนหลวงปู่หลุยพักอยู่ห้องหนึ่ง หลวงปู่แยกพักอยู่อีกห้องหนึ่งหลังจากนั้นหลวงปู่หลุยบอกหลวงปู่ว่า “หลวงปู่เป็นทหารเอกของพระพุทธเจ้า” สัจจะแรง ชาติก่อนเป็นฤาษี เกศาศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่บอกว่า “เกศาศักดิ์สิทธิ์จริงไม่จริงไม่รู้แต่สัจจะแรงจริง และขอบฉันพืช ผัก ผลไม้ และเป็นคนพูดจริงทำจริงมาตั้งแต่เด็กๆ”

หลวงปู่หลุย ยังบอกอีกว่า “หลวงปู่เป็นเจ้าคุณนรฯ องค์ที่ ๒ (เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต)” ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต ท่านเขียนภาษิตไว้ว่า “ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้นั้นไม่จริง” ส่วนหลวงปู่บอกว่า “ที่อ่านออกบอกไม่ได้ ที่เห็นได้ง่ายพูดไม่ออก” และทั้งสององค์ท่านเอาพระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ จากนั้นหลวงปู่หลุยได้นิมนต์ท่านให้เข้ากรุงเทพฯ ไปอบรมสั่งสอนคนกรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติธรรมภาวนา ตามแนวของท่านซึ่งก็มีญาติโยมสนใจมาก เข้าปฏิบัติธรรมและนิมนต์ท่านให้ไปจัดฝึกปฏิบัติธรรมหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง และที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านเมตตาไปสอนการฝึกปฏิบัติธรรมโดยวิธีขังตัวเป็นชีใบ้ทุกปี จนชราภาพ สังขารไม่อำนวยจึงหยุดไป

◎ เมื่อหลวงปู่เปลื้องไปกราบนมัสการหลวงปู่เทสก์
ท่านไปพบหลวงปู่เทสก์ฯ ครั้งแรกขณะหลวงปู่เทสก์ ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ เมื่อหลวงปู่เข้าไปกราบหลวงปู่เทสก์ฯ และได้เรียนนมัสการท่านว่า “ผมตั้งใจมากราบท่านนานแล้ว” หลวงปู่เทสก์ฯ ตอบว่า “รู้แล้ว คนจริงไม่ต้องพูดกันมากคำสองคำก็พอ คนไม่จริงพูดกันไม่รู้จบ” หลวงปู่บอกว่า “ทำไมท่านรู้ล่ะว่าหลวงปู่เป็นคนจริง พูดจริง ทำจริง”

ต่อมาเมื่อมีโอกาสไปกราบหลวงปู่เทสก์ฯ อีกครั้งท่านบอกให้ “พิจารณาธาตุอย่างเดียวพอ” หลวงปู่ว่า “ทำไมท่านรู้ล่ะว่าหลวงปู่กำลังพิจารณาธาตุอยู่” ภายหลังเมื่อหลวงปู่ตามไปกราบนมัสการหลวงปู่เทสก์ฯ ท่านไม่ยอมให้ไปบิณฑบาตกับพระอื่น ท่านให้ไปกับท่าน ไปบิณฑบาตที่กุฏิแม่ชี ซึ่งเขาใส่บาตรแต่ข้าวเปล่า กลับมาวางบาตรแล้วหลวงปู่ไม่รับอาหารอื่นอีก พอประเคนอาหารคาวหวานหลวงปู่ก็ไม่รับ หลวงปู่เทสก์ฯ บอกให้หลวงปู่ถอนสัจจะเสียสักครั้ง หลวงปู่ตอบหลวงปู่เทสก์ฯว่า “ไม่ได้ท่านอาจารย์ พอถอนครั้งหนึ่งได้แล้วก็จะถอนได้อีก ไม่เอา ตั้งสัจจะแล้วต้องทำจริง” วันนั้นท่านฉันแต่ข้าวเปล่า วันรุ่งขึ้นพอไปรับบิณฑบาตอีกมีอาหารคาวหวานใส่บาตรมากมาย หลวงปู่เคารพนับถือหลวงปู่เทสก์ฯ มาก เมื่อท่านไปกราบหลวงปู่เทสก์ฯ อีกในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ หลวงปู่เทสก์ฯ บอกว่าหลวงปู่ยังติดเมตตาอยู่ หลวงปู่บอกว่า “จริงหลวงปู่ยังติดเมตตาอยู่”
ไปกราบหลวงปู่เทสก์ฯ ครั้งสุดท้าย ที่ถำ้ขามปี พ.ศ. ๒๕๓๖ หลวงปู่เล่าว่า เช้านั้นหลวงปู่เทสก์ฯ ให้พระมานิมนต์ไปพบแล้วก็ดึงหูท่านมาใกล้ๆ พูดกรอกเข้าไปในหูว่าที่ท่านเทศน์เมื่อวานจริงหมด วันนี้หลวงปู่เทสก์ จะเทศน์ให้ท่านฟังบ้าง คือให้ท่านลดเมตตาเพราะแก่แล้ว

การปฏิบัติธรรม ท่านถือเนสัชชิก ไม่นอนเลย ท่านสามารถ เอาชนะความง่วงได้

หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต ท่านเล่าว่า “เป็นปกติเสียแล้ว ไม่ง่วง ไม่เมื่อย ไม่ปวดอันใด”

หลวงปู่เปลื้อง ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์แท้องค์หนึ่ง และยากจนที่สุด คือไม่มีสมบัติเงินทองเกินหนึ่งบาท นอกจากสมบัติ ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติอนุญาตให้ คือ ผ้าสามผืน บาตร กลด และบริขารที่จําเป็นเล็กน้อย ใส่ไว้ในบาตร เที่ยวเดินธุดงค์ มุ่งแสวงหาความเป็นจริงในธรรมะ เพื่อดําเนินจิตเข้าสู่แดนเกษม

พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม
พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต) วัดบางแก้วผดุงธรรม

ปัจจุบัน หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต วัดบางแก้วผดุงธรรม อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ รวมอายุได้ ๙๔ ปี พรรษา ๓๔

◎ โอวาทธรรม หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต

“..ชีวิต ที่ดีงาม ตามคำสอน
จงสังวร ระวังจิต ไม่ผิดศีล
ถือขันติ โสรัจจะ เป็นอาจิณ
หมดราคิน ความราคี มีราคา..”

“..ง่ายที่สุด การปฏิบัติธรรม
ยากที่สุด การเอากิเลสออก..”

“..ชาวโลกนั้น “โลภ” ชาวธรรมนั้น “ละ” อะไรจะเขียนให้เป็นพระขึ้นมาได้ ถ้าไม่มี พ (พอ) กับ ระ (ละ) ถ้าเรายังไม่ “พอ” มันก็ยังไม่ “ละ” ฉะนั้นพระจะต้อง “พอ” ต้อง “ละ” ..”