วันอังคาร, 3 ธันวาคม 2567

หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่สอน อนุสาสโก

ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน
ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

หลวงปู่สอน อนุสาสโก พระอริยะผู้ซ่อนกาย ธรรมะทายาทสายเลือดสายธรรมขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

หลวงปู่สอน อนุสาสโก หรือ ท่านสอนบิณสวย ที่องค์ท่านหลวงปู่ชอบตั้งฉายาให้ ท่านเป็นพระลูกศิษย์ “รุ่นธรรมะทายาท” ที่องค์ท่านหลวงปู่ชอบฝากพระพุทธศาสนาไว้ให้ท่านดูแล วาสนาของท่านพระอาจารย์สอนท่านจะโปรดสัตว์โลก “กายทิพย์” ได้ลึกล้ำจนเกินบรรยาย นิสัยของท่านจะอ่อนน้อมถ่อมตนปกปิดตนเองหลบซ่อนตัวมาโดยตลอด หลวงปู่สอน อนุสาสโก ท่านจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะโดยไม่มีฟืนไฟ หรือเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เลย ท่านไม่เคยเรียกร้องเอาอะไรจากใคร ทุกอย่างท่านจะอยู่กับธรรมชาติทั้งหมด ในบรรดาลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ หรือผู้ที่ไม่รู้ลึกใน “สุปฏิบันโน” ของพระศาสนาจะไม่รู้จักท่านพระอาจารย์สอนเลย

ผู้เขียน (พระวีระศักดิ์ โพธิสัตย์) หรือครูบากล้วยของพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นพี่ท่านเรียกขานไปกราบขออนุุญาตเมตตาให้ “หลวงปู่สอน อนุสาสโก” ให้ท่านออกมาโปรดสัตว์โลกทั้งกายทิพย์ กายหยาบ ผู้ที่มีวาสนารวมกับท่านอาจารย์ คำพูดของท่านทำให้ตนเองสะอึกเใจไปหมือนกัน..

“เรารอถ่าลูกชายหล้าหลวงปู่มานิมนต์เฮาอยู่ ทุกอย่างตอนนี้มันครบหมดทุกอย่างแล้ว อายุเฮาใช้มา ๗๗ ปีแล้ว เราจะใช้ชีวิตของเราที่เหลืออยู่เพื่อโปรดสัตว์โลก” ฟังท่านพระอาจารย์สอนพูดแล้วตนเองสะดุดกึกในคำพูดขององค์ท่านหลวปู่ชอบทันที “อย่าลืมท่านสอนเด้อ เบิ่งเพิ่นแน่” ยี่สิบเอ็ดปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ที่องค์ท่านหลวงปู่ชอบเคยบอก มากระจ่างแจ้งในวันนี้นี่เอง (๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗)

หลวงปู่คำสอน อนุสาสโก ท่านมีฉายาที่องค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เรียกท่านว่า “สอนบิณสวย” คำว่าสอนบิณสวยมาจากคำว่า “บิณฑบาตสาย” คำว่า “สวย“ ของภาษาอีสานคือความหมายของคำว่า “สาย” ของภาษาทางภาคกลาง

หลวงปู่คำสอน ท่านจะบิณฑบาตตอนสายหลังแปดโมงเช้าเป็นต้นไป ฉายานี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “สอนบิณสวย” หรือชาวบ้านโคกมนจะเรียกท่านว่า “หลวงปูสวย“

ท่านพระอาจารย์สอน อนุสาสโก หรือ หลวงปู่สอน ที่คนทั่วไปรู้จัก ท่านเป็นลูกศิษย์และเป็นพระหลานชายองค์เดียวของ “พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ที่ยังเหลือค้างอยู่ในพระศาสนา

หลวงปู่สอน อนุสาสโก ท่านมีนิสัยที่ผิดแปลกแตกต่างจากบรรดาลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่ชอบมากกว่าทุกองค์ ถ้านับท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร เป็นลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่ชอบเป็นผู้เด็ดเดี่ยวทางด้านเลิศฤทธิ์แล้ว ท่านพระอาจารย์สอนท่านจะเป็นลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่ชอบทางด้าน “ผู้เลิศเลอทางด้านสมถะมักน้อยสันโดษ” เหมือนกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบก็ไม่ปาน

หลวงปู่สอน อนุสาสโก นามเดิมของท่านชื่อ “นายคำสอน แก้วสุวรรณ์” (ตัวสะกดนามสกุลของท่านพระอาจารย์สอนมีการันต์เพราะทางเจ้าที่ฝ่ายทะเบียนสมัยนั้นเขียนสะกดผิด นามสกุลของท่านจึงแตกต่างจากนามสกุลขององค์ท่านหลวงปู่ชอบตรงตัวการันต์ นามสกุลขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ คือ “แก้วสุวรรณ” ไม่มีตัวการันต์ต่อท้ายนอเณร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนามสกุล “แก้วสุวรรณ” หรือนามสกุล “แก้วสุวรรณ์” สายญาติอีสานทางเมืองเลยแล้วเป็นนามสกุลสายญาติเดียวกันกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

หลวงปู่สอน อนุสาสโก นามเดิมของท่านชื่อ “คำสอน แก้วสุวรรณ์” ท่านเกิดที่บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๘๑ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๘ ปีขาล บิดาของท่านชื่อ นายวันนา แก้วสุวรรณ์ และมารดาของท่านชื่อ นางพัก แก้วสุวรรณ์ โยมพ่อท่านพระอาจารย์สอนเป็นสายญาติผู้น้องของโยมพ่อองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

หลังจากหลวงปู่สอนท่านเกิดมาได้ไม่นานครอบครัวของท่านก็ย้ายจากบ้านโคกมนมาอยู่ที่บ้านวังม่วง ตำบลเอราวัณ อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ในปัจจุบัน

ตอนหลวงปู่สอนท่านเป็นเด็ก ท่านได้พบกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบตอนที่หลวงปู่ชอบท่านมาพักและสร้างวัดป่าบ้านวังม่วงหรือวัดป่าท่าสวย เมื่อพบกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบในครั้งแรก หลวงปู่สอน อนุสาสโก ท่านมีจิตใจเกรงกลัวในองค์ท่านหลวงปู่ชอบมาก แต่ในใจลึกๆ ของท่านในตอนนั้นกลับอยากจะอยู่ใกล้ๆ กับองค์ท่านหลวงปู่ชอบมาก ซึ่งใจของท่านตอนนั้นยังบอกอะไรให้กับตัวเองยังไม่ได้ ได้แต่อยู่ห่างๆ กับองค์ท่านหลวงปู่ชอบทั้งที่ใจอยากใกล้ชิด

เมื่อศรัทธาในวัตรปฏิบัติขององค์ท่านหลวงปู่ชอบเพิ่มมากขึ้นพระอาจารย์สอนท่านจึงขออนุญาตโยมพ่อโยมแม่อยากไปบวชเพื่อรับใช้องค์ท่านหลวงปู่ชอบ โยมพ่อกับโยมแม่ จึงพาท่านไปฝากเป็นลูกศิษย์ขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ ที่วัดป่าท่าสวยบ้านวังม่วง องค์ท่านหลวงปู่ชอบ ได้สอนข้อวัตรและหัดท่องอักขระนาคขานให้กับท่านพระอาจารย์สอนจนชำนาญ จากนั้นองค์ท่านหลวงปู่ชอบจึงพาท่านพระอาจารย์สอนไปบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย เมื่ออายุของท่านได้ ๑๘ ปี ในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ โดยมี พระเทพวราลังการ (หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นพระอาจารย์ผู้ให้ศีลสมาทานสามเณรให้ท่าน

หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

หลวงปู่สอน อนุสาสโก หลังจากท่านบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ท่านอยู่ปฏิบัติกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และ หลวงปู่พุทธา พุทธสิริ อยู่ร่วมสี่ปี เมื่อท่านอายุได้ ๒๒ ปี องค์ท่านหลวงปู่ชอบจึงอนุญาตให้ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ปีพุทธศักราช ๒๕๐๒ เวลา ๑๓.๑๐ น. ณ วัดจันทะรังษี ตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพวราลังการ (หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พรหมมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในพระพุทธศาสนาว่า “อนุสาสโก” ซึ่งแปลว่า “ผู้ปกครอง หรือ ผู้พร่ำสอน”

หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
หลวงปู่สอน อนุสาสโก ที่พักสงฆ์ถ้ำผาล้อม บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

เรื่อง หลวงปู่คำสอน อนุสาสโก สุปฏิปันโนผู้ซ่อนกาย สายเลือดสายธรรมขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม นี้ ผู้เขียนขออนุญาตท่านแล้ว เรื่องต่างๆ ของท่านที่เกี่ยวเนื่องในภาคปฏิบัติ หรือเรื่องราวที่ท่านปฏิบัติตอนอยู่กับองค์ท่านหลวงปู่ชอบจะนำเสนอให้ท่านทั้งหลายได้รับทราบดังนี้

◎ ประวัติเที่ยววิเวกกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

หลังจากขึ้นฝั่งนั่งเรือพญานาคจำแลงมาส่งแล้ว องค์ท่านหลวงปู่ชอบ พาหลวงปู่สอนและสามเณรทองรัตน์เดินทางไปที่บ้านตากแดด ห่างจากจุดที่ขึ้นฝั่งไปอีกประมาณยี่สิบกว่ากิโล หลวงปู่สอนท่านบอกเดินทางมาถึงบ้านตากแดด เวลาประมาณหกโมงเย็น ก่อนจะถึงบ้านตากแดดมีผู้หญิงวัยกลางคนสองคนมาดักรอองค์ท่านหลวงปู่ชอบและคณะ หลวงปู่สอน ท่านบอกกิริยาและคำพูดจาของผู้หญิงสองคนนี้ เหมือนรู้จักและนัดหมายกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบมาก่อน

ผู้หญิงสองคนนี้กราบนิมนต์ และแนะนำองค์ท่านหลวงปู่ชอบให้ไปพักอยู่ที่ชายป่าเชิงเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากกับบ้านตากแดด จากนั้นผู้หญิงวัยกลางคนทั้งสอง ก็ขออนุญาตกราบลาองค์ท่านหลวงปู่ชอบกลับบ้าน วันต่อมาหลวงปู่สอนบอกท่านก็ไม่เห็นผู้หญิงสองคนนี้มาหาองค์ท่านหลวงปู่ชอบอีกในทางภายนอก แต่ภายในนั้น องค์ท่านหลวงปู่ชอบบอกพวกเขามาอารักขาพวกเราอยู่ที่นี่ทั้งคืน

องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาหลวงปู่สอนและสามเณรทองรัตน์พักอยู่ที่บ้านตากแดดหนึ่งคืน หลังจากบิณฑบาตฉันอาหารเสร็จแล้ว องค์ท่านหลวงปู่ชอบ พาหลวงปู่สอนและสามเณรทองรัตน์เดินทางออกจากบ้านตากแดดเวลาประมาณเก้าโมงเช้า องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาลูกศิษย์เดินทางอย่างต่อเนื่องโดยให้ลูกศิษย์หยุดพักเหนื่อยเพียงสี่ครั้ง ครั้งละประมาณสิบนาที องค์ท่านหลวงปู่ชอบบอกหลวงปู่สอนอย่าพักนาน ถ้าพักนานแล้วกิเลสมันจะพาขี้เกียจท้อใจในการเดินทาง

หลวงปู่สอนท่านบอกถึงบ้านนาปลาฝาเวลาประมาณเที่ยงคืน องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาพักอยู่ที่บ้านนาปลาฝาหนึ่งคืน จากนั้นองค์ท่านหลวงปู่ชอบพาเดินทางมาที่บ้านนาบัวเขตเมืองสานะคาม เมืองสานะคามจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เดินทางมาถึงบ้านนาบัวเวลาเที่ยงวันองค์ท่านหลวงปู่ชอบพาไปพักอยู่ที่เชิงเขาหลักสิบ
สองซึ่งจะอยู่ห่างจากบ้านนาบัวประมาณหนึ่งกิโลเมตร (ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นกองร้อยทหารลาว)

หลังจากจัดแจงที่พักให้องค์ท่านหลวงปู่ชอบเสร็จแล้ว พอบ่ายแก่ๆหลวงปู่สอนท่านชวนสามเณรทองรัตน์ไปสรงน้ำที่หนองน้ำใกล้ที่พัก ระหว่างหลวงปู่สอนกับสามเณรทองรัตน์กำลังจะพากันสรงน้ำที่หนองแห่งนี้ องค์ท่านหลวงปู่ชอบเดินมาบอก ท่านสอน อย่าสรงน้ำใช้น้ำที่หนองน้ำแห่งนี้ น้ำในหนองแห่งนี้มันมีพิษ หลวงปู่สอนท่านสงสัยจึงเรียนถามองค์ท่านหลวงปู่ชอบว่า น้ำในหนองแห่งนี้ก็ดูใสดีทำไมมันถึงมีพิษ

องค์ท่านหลวงปู่ชอบบอก พญานาคหนุ่มมิจฉาทิฐิมันคะนองฤทธิ์ ตอนพวกเรามาถึงที่นี่มันลอบมาคายพิษใส่ในน้ำเอาไว้ พญานาคที่หนองนี้ไม่อยากให้พวกเราอยู่ที่นี่จึงลอบคายพิษใส่ในน้ำเอาไว้ ถ้าอยากสรงน้ำให้ท่านพาเณรรัตน์ไปใช้น้ำบ่ออีกที่หนึ่ง น้ำบ่อที่นี่มันจะปลอดพิษภัย

เรียนถามหลวงปู่สอนว่า น้ำในหนองที่ว่านี้มันมีอะไรผิดปรกติให้เห็นบ้างไหม หลวงปู่สอนท่านบอกมองภายนอกมันก็ใสเป็นปรกติทุกอย่าง เพียงแต่ว่าตอนนั้นน้ำมันแห้งลงไปบ้างเพราะเป็นหน้าแล้ง พอองค์ท่านหลวงปู่ชอบบอกไม่ให้ใช้น้ำที่หนองแห่งนี้ท่านกับเณรรัตน์ก็พากันไปใช้น้ำที่บ่อน้ำเล็กๆ ที่อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก

หลวงปู่สอน “แต่พอข้ามมาอีกวันหลวงปู่ชอบท่านบอก เฮ้ย..สอน น้ำในหนองแห่งนี้ใช้ได้แล้วเด้อ มันบ่มีพิษแล้ว เมื่อคืนนี้พญานาคมันยอมถอนพิษของมันออกไปแล้ว พญานาคมันยอมให้พวกเฮาใช้น้ำได้”

ถามหลวงปูสอนว่า องค์ท่านหลวงปู่ชอบได้บอกมั๊ยว่าพญานาคยอมถอนพิษออกเพราะอะไร

หลวงปู่สอนท่านบอก เรื่องนี้เราไม่ได้ถามท่าน พ่อแม่ครูจารย์ชอบท่านต้องทำอะไรภายในของท่านนั้นแหละพญานาคตนนี้ถึงได้อ่อนยอมศิโรราบในธรรมขององค์ท่าน

ผู้บันทึกเรียนถามหลวงปู่สอนว่า ท่านอาจารย์ทำไมไม่ทดลองดูว่าพิษของพญานาคนี้มันเป็นอย่างไร เผื่อจะได้รู้ฤทธิ์พิษภัยของพญานาค

หลวงปู่สอนท่านว่าให้ “เราไม่ใช่ผีบ้านี้จะไปลองทำ ลองเล่นแบบนั้น คำสั่งของพ่อแม่ครูจารย์ชอบ ถ้าท่านได้สั่งไว้ยังไงก็ต้องทำตามอย่างนั้น ถ้าขืนไปขัดคำสั่งขององค์ท่านมันจะมีอันเป็นไป มันจะเป็นอันตรายกับตัวของเราเอง เราไม่ได้ดื้อคึกคะนองเหมือนกับครูบายุพิน (หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ) กับครูบาคล้ายนี่”

“ตอนหลวงปู่ชอบท่านพาไปพักอยู่ผาห่มพร้าว หลวงปู่ชอบท่านสั่งห้ามไม่ให้เทข้าวก้นบาตรลงไปในน้ำโขง สององค์นี้ท่านอยากจะลองดูจึงฝืนคำสั่งพ่อแม่ครูจารย์เทข้าวก้นบาตรลงไปในน้ำโขง เป็นเหตุให้พญานาคผาห่มพร้าวไม่พอใจ พังตลิ่งน้ำโขงใส่ จนครูบายุพินกับท่านคล้ายพากันหอบบริขารหนีภัยพญานาค พ่อแม่ครูจารย์ชอบท่านว่าให้อย่างหนักจนครูบายุพินกับครูบาคล้ายเข็ดหลาบ”

เรียนหลวงปู่สอนว่า เรื่องพญานาคคายพิษใส่น้ำนี้ หลวงปู่ชอบท่านเคยเล่าให้ฟังตอนท่านเที่ยววิเวกกับองค์ท่านหลวงปู่มั่นที่เชียงใหม่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เขตอำเภอพร้าว พญานาคมิจฉาทิฐิแอบมาคายพิษใส่น้ำในบึงเอาไว้หวังทำอันตรายพระเณร องค์ท่านหลวงปู่มั่นโปรดพญานาคตนนี้จนคลายมานะทิฐิยอมถอนพิษออกจากน้ำในบึง เรื่องพญานาคคายพิษใส่น้ำที่บ้านนาบัวเมืองซะนะคาม ประเทศลาว นี้จึงคล้ายกันกับเรื่องพญานาคคายพิษใส่น้ำที่อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาหลวงปู่สอนและสามเณรทองรัตน์พักภาวนาอยู่ที่บ้านนาบัวสานะคามจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ จากนั้นองค์ท่านชอบพาหลวงปู่สอนและสามเณรทองรัตน์เดินทางออกจากบ้านนาบัวมาดักเรือสินค้าที่ท่าฝั่งบ้านปากพาง องค์ท่านหลวงปู่ชอบพานั่งเรือสินค้ามาลงที่ท่าด่านเมืองซะนะคาม ประเทศลาว องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาเข้าไปพักอยู่ที่วัดผาหด (ตรงกันข้ามกับวัดท่าแขกอำเภอเชียงคาน) องค์ท่านพาพักอยู่ที่นี่หนึ่งคืน

เช้ามาหลวงปู่ชอบท่านพาบิณฑบาตที่เมืองสานะคาม หลังบิณฑบาตแล้วหลวงปู่ชอบท่านพามารอเรือสินค้าอยู่ที่ท่าด่านสานะคาม พอเรือสินค้ามาจอดที่ท่าด่านองค์ท่านหลวงปู่ชอบขออาศัยนั่งเรือสินค้ามาลงผาห่มพร้าว เพื่อจะพาหลวงปู่สอนและสามเณรทองรัตน์มาฝึกฝนภาวนาอยู่ที่นี่ หลวงปู่สอนท่านบอกวันนั้นองค์ท่านหลวงปู่ชอบพาฉันข้าวมากับเรือสินค้า

องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาพักภาวนาอยู่ที่ผาห่มพร้าวได้สามวัน พอวันที่สี่ องค์ท่านหลวงปู่หลุย จันทสาโร , หลวงพ่อบัวคำ มหาวีโร , หลวงพ่อบัวทอง กันตปทุโม และโยมอีกสองคนคือพ่อไข กับพ่อเกลี้ยง เดินทางมาสมทบกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ที่ผาห่มพร้าว พักอยู่ที่นี่ประมาณสิบวันองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ก็พาคณะข้ามกลับมาฝั่งไทยทางบ้านสะหงาว เขตอำเภอปากชม จังหวัดเลย

พอข้ามมาฝั่งไทยแล้วองค์ท่านหลวงปู่หลุยเดินทางมาหา หลวงปู่คำดี ปภาโส ที่ วัดถ้ำผาปู่ ตำบลน้าอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ส่วนพระเณรที่เหลือขอติดตามองค์ท่านหลวงปู่ชอบขึ้นไปพักภาวนาอยู่ที่ถ้ำเม่นใกล้กับพระพุทธบาทจำลองภูควายเงิน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พาลูกศิษย์พักภาวนาอยู่ที่ถ้ำเม่นเชียงคานอาทิตย์หนึ่ง จากนั้นองค์ท่านพาเดินทางมาเยี่ยม พระราชสีลสังวร (เจ้าคุณนาซ่าว) ที่ วัดศรีโพนแท่น ตำบลนาซ่าว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ออกจากบ้านนาซ่าว องค์ท่านหลวงปู่ชอบ พาหลวงปู่สอน เดินทางกลับมาวัดป่าสัมมานุสรณ์เพื่อเตรียมที่พักไว้ให้พระเณรจำพรรษา

ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ หลวงปู่สอน อนุสาสโก ท่านจำพรรษากับ องค์ท่านหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ร่วมกับพระเณรอีก ๑๘ รูป ปีนี้หลวงปู่สอนท่านเป็นมือรองจากหลวงพ่อบัวคำในการอุปัฏฐากดูแลองค์ท่านหลวงปู่ชอบ

ปีนี้ท่านบอกองค์ท่านหลวงปู่ชอบดุกับท่านมาก องค์ท่านหลวงปู่ชอบทรมานกิเลสท่านมาก จนบางครั้งท่านถึงกับน้ำตาตกในน้อยใจ พอได้ยินองค์ท่านหลวงปู่ชอบบอกท่านว่า..

“สอน..เราฝึกท่านให้เป็นพระนะ เราไม่ได้ฝึกท่านให้เป็นคน ถ้าท่านอยากจะเป็นพระผู้บริสุทธิ์แล้ว ท่านต้องอดทนละกิเลสทุกอย่างให้ได้”

คำพูดขององค์ท่านหลวงปู่ชอบจึงเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้หลวงปู่สอนท่านยึดถือปฏิบัติ ท่านจึงตั้งปรารถนาให้กับตนเองว่า.. “ชาตินี้เราจะขอตายคาผ้าเหลือง ชาตินี้เราจะปฏิบัติให้ตนเองบริสุทธิ์เหมือนกับพ่อแม่ครูจารย์ชอบของเราให้ได้”