วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ วัดป่าประดู่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ

วัดป่าประดู่
อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ วัดป่าประดู่
หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ วัดป่าประดู่

หลวงปู่บุญทัน ท่านเป็นศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แห่งกองทัพธรรม

หลวงปู่บุญทัน ท่านคือพระผู้มีประวัติโลดโผน มีความอัศจรรย์ทางจิตอยู่มาก

หลวงปู่บุญทัน ท่านใช้เวลาศึกษาวิชาอาคมมาก่อนถึง ๗ ปี เต็มๆ นับได้ว่าอันวิชาเร้นลับสามารถแสดงฤทธิ์ให้เห็นได้นั้น มีความชํานาญอย่างยิ่งยวด

กอปรด้วยยุคนั้น ชาวบ้านยังให้ความสําคัญในวิชานี้มาก ทั้งยังเชื่อถือเรื่องคุณไสยมากมายนัก

หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๕ ค่ํา เดือน ๖ ปีจอ

ณ บ้านค้อ หมู่ ๘ ตําบลหัวช้าง อําเภออุทุมพรพิสัย (อดีต อําเภอสําโรงใหญ่) จังหวัดศรีสะเกษ

บิดาชื่อ นายกันยา แสนหมื่น มารดาชื่อ นางคํา แสนหมื่น อาชีพรับจ้างและทํานา

ชีวิตแต่เยาว์วัยของหลวงปู่บุญทัน มีแต่ความทุกข์ยากลําบากอย่างแสนเข็ญ มีความเศร้าโหดร้ายอาภัพอับจน ต้องต่อสู้กับชีวิต และวิบากกรรมอย่างสุดลําเค็ญ

หลังจากชีวิตผ่านความวิปโยคมาได้ ๑๖ ปี บิดาได้นําไปบวชเณร ณ วัดเจียงอีศรีมงคล โดย หลวงปู่สังข์ทอง เป็นพระอุปัชฌาย์

สมัยเป็นเณรบุญทัน ท่านก็ได้ช่วยเหลือผู้คนญาติโยม ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมาโดยตลอด

แต่หลังจากบวชเณรไม่นาน ก็ต้องลาสึกไปช่วยงานทํานาของบิดาและน้อง ๆ

เมื่ออายุได้ ๒๒ ปีเต็มบริบูรณ์ ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพนค้อ อําเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ.๒๔๗๕

โดย ท่านพระครูเกษตรศีลาจารย์ (สังข์ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นพระฝ่ายมหานิกายในตอนแรก ๆ

บวชแล้วก็ได้ออกเดินธุดงค์ มุ่งสู่สํานักต่างๆ ที่มีชื่อเสียง ทั้งในประเทศไทย เขมร ลาว พม่า เป็นต้น

หลวงปู่บุญทัน เคยอยู่ศึกษากับลูกศิษย์ของ สําเร็จลุน แห่งนครจําปาศักดิ์ ซึ่งสามารถเดินบนน้ํา เดินกลางอากาศหายตัวได้ทุกอย่าง

หลวงปู่สมเด็จลุน (สำเร็จลุน) วัดเวินไซ ສົມເດັດລຸນ ວັດເວີນໄຊ
หลวงปู่สมเด็จลุน (สำเร็จลุน) วัดเวินไซ ສົມເດັດລຸນ ວັດເວີນໄຊ

ชีวิตที่โลดโผนฝึกฝนอยู่กับ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้น ท่านมา ทราบเอาภายหลังว่า

“โอ… หลงทางเสียเวลาไปตั้ง ๗ ปี ดีที่หันมาพบหนทาง…”

ต่อมา ท่านเดินธุดงค์มาพบกับพระสหธรรมิกเก่าแก่ คือ หลวงปู่บุญมี แห่งวัดทุ่งสว่าง จังหวัดหนองคาย และยังได้พบกับ ท่านพระอาจารย์กู่ ธัมมทินโน ผู้เป็นลูกศิษย์อันลือเลื่องของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

จึงเกิดศรัทธาในข้อวัตร และ ได้ทําการแปรญัตติใหม่เพื่อเป็นการเข้าสู่หมู่ท้องโดยใจเคารพ

การแปรญัตติเป็นคณะธรรมยุตนั้น ท่านได้เดินทางมายังวัดสว่างชัยศรี อําเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์

โดยมี ท่านพระครูปฏิภาณธรรมคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ (ได้รับฉายาว่า “ฐิตปัญโญ ภิกขุ

หลังจากแปรญัตติแล้ว ท่านได้อยู่จําพรรษา วัดสว่างชัยศรี โดยสังกัดวัดนี้มาโดยตลอด

ครั้นออกพรรษา ท่านก็ได้มุ่งสู่ราวป่าเดินธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ ร่วมกับพระสหธรรมิก เพื่อมุ่งหวังว่าจะได้กราบและถวายตัว เป็นศิษย์กับหลวงปู่มั่น

แล้วในที่สุด ท่านหลวงปู่บุญทัน ก็สามารถติดตามมาจนพบ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ เมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้พบกับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ด้วย

ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหนทางของพระธุดงคกรรมฐาน และผู้ปฏิบัติหวังทางพ้นทุกข์ คือพระ นิพพาน

ผู้ปฏิบัติ หลวงปู่บุญทันท่าน สอนไว้ว่า

“อย่าส่งจิตออกนอก ตัวตน ไม่มี มีแต่ผู้รู้อยู่เฉพาะหน้าเท่านั้น”

จิตเป็นตัวรู้เรื่องทุกข์ เรื่องสุข รู้ดี รู้ชั่ว ก่อนรู้อะไรต่างๆ โดยละเอียดนั้น จะต้องทําจิตตั้งมั่นดีแข็งแรงเสียก่อน

สมถภาวนานี้ ต้องแข็งจริงๆ มีความสงบจริงๆ แน่วแน่… มั่นคงตรงดีจริงๆ จากนั้นจึงดําเนินจิตเข้าสู่วิปัสสนา

มันจะยากตอนแรกๆ จะงุนงงสงสัยก็ตอนแรก ๆ มันอยากจะพูด อยากจะถาม คันปากคันคอก็ตอนแรกๆนี้เอง ต่อไปขนาดเขี่ยมันก็ยังไม่ว่า ให้พูดมันก็เฉยเสีย สงบระงับดับฟุ้งซ่านได้หมด

ทําจริงๆ เถิดจะพบกับของจริง ธรรมะแท้อยู่ที่ตัวบุคคล พระพุทธเจ้าทรงดําเนินมาแล้ว ท่านปูทางแห่งนิโรธธรรมอย่างแท้จริง จึงเป็นหนทางแห่งความดับทุกข์ ขั้นสูงไงล่ะ….”

ชีวิตอันผาดโผนของหลวงปู่บุญทันได้รุดหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนสุดท้ายแห่งความตาย ตายเป็นการดับทุกอย่างลงอย่าง สิ้นเชิง

แต่หลวงปู่บุญทันท่านดับได้ ด้วยสติปัญญา นับได้ว่าเหนือกว่า บุคคลธรรมดาๆ มากนัก ไป

ท่านละโลกอันเป็นสังขารนี้ไปแล้ว พร้อมกับธรรมะข้อปฏิบัติ หวังความพ้นทุกข์ใจ