หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ละสังขารอย่างสงบแล้ว

28 ก.ย. 2023

2073

หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ละสังขารอย่างสงบแล้วเช้านี้
เวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น. ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๖

ด้วยอาการนั่งสมาธิดับขันธ์อยู่หน้ากุฏิท่าน ณ วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย
สิริอายุได้ ๗๙ ปี ๑ เดือน ๒ วัน พรรษา ๕๙ (*เวลาตี ๔ คือเวลาที่พระเณรขึ้นไปทำข้อวัตร จึงทราบว่าหลวงปู่ละขันธ์แล้ว เวลาท่านดับขันธ์จริง ๆ ต้องให้ทางการแพทย์วินิจฉัยอีกทีครับ)

_{คณะสงฆ์ร่วมบรรจุสรีระสังขาร หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ณ ศาลาการเปรียญวัดป่าสัมมานุสรณ์}

● กำหนดวันประชุมเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ

เวลา ๑๕:๐๐ น. คณะสงฆ์ร่วมบรรจุสรีระสังขาร หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ณ ศาลาการเปรียญวัดป่าสัมมานุสรณ์

โดยมีการกำหนดวันประชุมเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ในวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๖

● บัญชีร่วมบุญ งานประชุมเพลิง
หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาวังสะพุง
ชื่อบัญชี วัดป่าสัมมานุสรณ์
เลขที่ 5282782957

● ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
พระอาจารย์จักรกริช พระอาจารย์ยุตต์
088-564-2287
065-991-5159

“.. เกิดแก่เจ็บตาย มันมาพร้อม ๆ กัน แต่มันปกปิดเอาไว้พอเป็นเด็กหนุ่ม เป็นวัยกลางคน ต่อไปก็จะเป็นวัยทอง เริ่มแล้ว เริ่มเปิดเผยแล้ว ผมที่เคยดกดำเงางามก็เริ่มหงอกแล้ว หนังที่เคยเต่งตึงสวยงามก็เริ่มเหี่ยวย่นแล้ว เขาเรียกว่า ความแก่เปิดเผย หูตาก็เริ่มฝ้ามัวเข้ามาแล้ว แข้งขาก็เริ่มปวด ปวดขาปวดเอวสารพัด มันก็เริ่มเปิดเผยเข้ามาแล้ว
ความตายเหมือนกัน แต่ละนาที แต่ละวินาที
มันตายไปแล้ว แต่ว่ามันยังปกปิดไว้อยู่
ทุกคนเกิดมาแล้ว ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตายหมด
ไม่มีใครจะยิ่งหย่อนกว่ากันได้เปรียบเสียเปรียบ
เกิดมาแล้วต้องแก่ เกิดขึ้นมาแล้วต้องเจ็บ
และเกิดขึ้นมาแล้วต้องตาย เกิดแก่เจ็บตายเป็นสัจธรรมของชีวิต เพราะฉะนั้นเราต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ให้เป็นธรรมะ เรามีสมาธิเรามีพลังจิตของสมาธิพอสมควรแล้ว เราก็พิจารณาสิ่งเหล่านี้ได้
พระพุทธเจ้าท่านยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์ อนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา เกิดขึ้นมาแล้วต้องวิ่งเต้นกระเสือกกระสน เหมือนกับเราลอยคออยู่กลางมหาสมุทรอยู่กลางน้ำ หาฝั่งไม่ได้ ไม่รู้ฝั่งอยู่ที่ไหน แต่ละตัวแต่ละชีวิต มือก็กวักขาก็แกว่ง ถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็จะจมน้ำตาย ต้องช่วยเหลือตนเองอยู่อย่างนั้น เพราะฉะนั้นทุกชีวิตต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ไม่เว้นแม้แต่พระ ฝนตกขนาดไหน แดดออกขนาดไหน ก็ต้องออกไปขอบิณฑบาต เพื่อที่จะมาหาเลี้ยงตนเอง
นี้เรามาทำความดี ทำบุญทำกุศลทั้งหลาย เหมือนกับเราหาที่พึ่ง หาเรือ หาขอนไม้ ที่จะพยุงตัวเราขึ้น ทำให้ลอยไปข้างหน้า ลอยไปหาที่พึ่งทางใจ คือบุญกุศลความดีทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้หล่ะจะส่งให้เราขึ้นถึงฝั่ง ขึ้นฝั่งคือพระนิพพานที่พระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า ท่านขึ้นฝั่งได้แล้ว ไม่ทุกข์ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บไม่ตายอีกแล้ว นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานเป็นที่สิ้นอาสวะกิเลส เพราะฉะนั้นเราต้องภาวนา “พุทโธ” ให้มันได้ก่อน ให้จิตของเรามีพลังสมาธิเสียก่อน เมื่อสมาธิเรามีพลัง ชีวิตคือการต่อสู้ เอาพลังอันนี้แหล่ะไปต่อสู้กับอะไร ไปต่อสู้กับอำนาจฝ่ายต่ำที่มันอยู่ในใจของเรา เรียกว่า “กิเลสตัณหา”
เมื่อสมาธิเรามีพลัง ความรักเกิดขึ้น ความโกรธเกิดขึ้น ความโลภความหลงเกิดขึ้น สารพัดที่มันจะมานุแยงตะแคงรั่วให้จิตใจเราไขว้เขวคิดไปในทางที่ไม่ดี เราก็ยับยั้งได้ ถ้าเปรียบพลังมันก็เหมือนกับเบรค ถ้ารถมันจะฝ่าไฟแดงมันก็หยุดกึก จิตใจของเราก็เหมือนกัน ถ้ามันมีพลัง มันก็จะระงับยับยั้งจิตใจของเราได้ ชนะจิตใจของเราได้ ชนะอารมณ์ของเราได้ ..”

● โอวาทธรรม หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

● กำหนดการ งานถวายเพลิงสรีระสังขาร พระครูวีรญาณโสภณ ( หลวงปู่ดาด สิริปัญโญ ) ณ เมรุชั่วคราว

วัดป่าสัมมานุสรณ์ ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

วันที่ 28 กันยายน ถึง 16 ตุลาคม 2566

**วันพฤหัสบดี ที่ 28 กันยายน 2566

ถึง วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566

ณ ศาลาเมตตาฐานสโม

เวลา 07:00 น.

พระภิกษุ สามเณร ออกรับบิณฑบาต ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ สามเณร

เวลา 18:30 น.

ทำวัตรสวดมนต์เย็น

เวลา 19:00 น.