วันอาทิตย์, 13 ตุลาคม 2567

หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม บ้านร่องเม็ก อ.เมืองจ.หนองคาย

ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

วัดจันทราราม บ้านร่องเม็ก
อ.เมือง จ.หนองคาย

หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม

หลวงปู่จันทร์ ท่านเป็นศิษย์องค์หนึ่ง ในจํานวนร้อยองค์ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บิดาพระกรรมฐาน (พระป่า)

ในชีวิตของสมณเพศ ท่านเคยศึกษาพระธรรมวินัย จนได้รับความดีงามจากลูกศิษย์ลูกหามากมาย ท่านเป็นนักปราชญ์ที่มีความรู้สมัยอยู่กรุงเทพฯ

แต่ด้วยบุญบารมี ทําให้ท่าน เกิดปัญญา หันหน้าออกป่า หาความวิเวก เร่งบําเพ็ญสมณธรรม จนได้รับความสงบทางใจ อันเป็นอุปนิสัยของพระอริยเจ้า ผู้มีสติปัญญาดี

ประตูใจที่ถูกปิดตายมาเสียนาน ครั้นได้รับธรรมะที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แสดงไว้นั้น เกิดแสงสว่างทางด้านสติปัญญาลุกโพลง มองเห็นความเป็นจริงของชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ทําให้พระกรุงเทพฯ ติดอกติดใจ ออกติดตา เดินธุดงค์ไปในที่ทุกหนทุกแห่ง

ธรรมนั้นแสดงไว้ว่า…

“การปฏิบัติทางจิต ถือเป็นเรื่องสําคัญ

การทําจิตให้สงบ ถือเป็นกําลังการพิจารณา อริยสัจถือว่าเป็นการถูกต้อง…

การปฏิบัติข้อวัตร มีการฉันหนเดียวเป็นทางพระอริยะ

ผู้คนเดินทางผิด ย่อมไม่ถึงที่หมายคือ พระนิพพาน ! ”

เพียงเท่านี้ ทําให้กิเลสทั้งปวงภายในจิตใจสะดุ้ง เลื่อนลั่นด้วยความหวาดหวั่น…หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้แสดงแก่ลูกศิษย์ทุกองค์ได้ยินกันนํามาพิจารณา

ท่านพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต เดิมท่านเป็นคนชาวอําเภอมหาชนะชัย จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบัน อําเภอมหาชนะชัย ขึ้นกับจังหวัดยโสธร)

อายุได้ ๑๒ ปี บิดามารดา ได้นํามาฝากวัด เพื่อศึกษาเล่าเรียน ต่อมาบิดามารดาย้ายหลักฐานครอบครัวไปอยู่ อ.ภูเวียง จ. ขอนแก่น เพราะที่นั่นอุดมสมบูรณ์ ด้วยน้ําท่า (ดินดําน้ําชุ่ม)

อายุได้ ๑๔ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งเป็นวัดใกล้ๆ บ้าน

ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่ จ.ขอนแก่น และเดินทางไปศึกษาที่ จ.อุบลราชธานี จน สอบได้นักธรรมตรี

ชีวิตที่ไม่แน่นอน มีอยู่ประจําโลก อายุเกือบจะบวชอยู่แล้ว ต้องมีอันเป็นไปคือ ลาสึกออกมาใช้ชีวิตฆราวาส เมื่ออายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์

หลังจากนั้น ท่านได้เดินทางมาหางานทํา ที่กรุงเทพฯ แถว จ.นนทบุรี

ขณะมาอยู่กรุงเทพฯ ได้ไม่นาน ท่านเกิดเคราะห์ร้าย รถไฟชนได้รับบาดเจ็บ จนต้องพิการตลอดมา

เมื่อท่านรักษาตัวหายแล้ว ท่านจึงคิดที่จะบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ตามความตั้งใจเดิม

ดังนั้นการอุปสมบท ได้จัดขึ้น ณ วัดบางขวาง อ.เมือง จ.นนทบุรี

เมื่อท่านได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ท่านก็เข้าศึกษาพระธรรมวินัย จนได้สอบธรรมบาลีต่าง ๆ ในพรรษาที่ ๓ ได้นักธรรมชั้นเอก

ลําดับต่อมา ท่านพระอาจารย์จันทร์ ได้รับธุระ ทดแทนครูบาอาจารย์ ตลอดจนพระพุทธศาสนาได้เป็นอันมาก

ขณะอยู่วัดบางขวาง ท่านได้นั่งภาวนาทบทวนสมาธิ เมื่อสมัยเป็นสามเณร ครูบาอาจารย์เคยกระทําให้ดูเป็นตัวอย่าง นั่งไปจนจิตสงบ เกิดความอัศจรรย์ จิตทรงอยู่ในสมาธิเกิดความอิ่มเอิบ ตลอดวันตลอดคืน

ต่อมาท่านได้รับการบอกเล่าจากพระร่วมวัดเดียวกัน คือท่าน พระมหาผา ชี้แจงว่า

“ปัจจุบัน นอกเสียจาก พระอาจารย์เสาร์ และ พระอาจารย์มั่น แล้ว ก็ไม่เห็นมีใครอีก โน้นท่านอยู่ทางภาคอีสาน ท่านเป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน”

ท่านพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต ได้ออกเดินทางติดตามหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่นทันที

มุ่งออกเดินทาง ๕ วัน ๕ คืน จากอําเภอบัวใหญ่มา จ.ขอนแก่น แต่ก็เกือบเสียทีอยู่ครั้งหนึ่ง เพราะอาหารเป็นพิษ ท่านคิดจะกลับกรุงเทพฯ

เป็นเพราะบุญกุศลอีก คือ ป่าช้าบ้านเหล่างา เช้าวันนั้นเป็นวันตัดสินใจของท่านจะกลับกรุงเทพฯ ก็พอดี หลวงปู่สีโห เขมโก ท่านพาหมู่คณะออกรับบิณฑบาตในตัวเมือง

ท่านเกิดไปเห็นปฏิปทาของ พระชุดนี้เข้า เลื่อมใสศรัทธาเอาเสียมาก ๆ จึงเดินเข้าไปนมัสการแล้ว หลวงปู่สีโห ก็ได้สอบถามภายในใจของท่านพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต หมดสิ้น ท่านจึงได้รู้ผลแห่งการปฏิบัติตั้งแต่นั้นมา และ ท่านพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต ก็เข้ามาอยู่ปฏิบัติธรรมที่ป่าช้าบ้านเหล่างา โดยท่านถือเอาพระอาจารย์องค์แรกของท่าน คือ หลวงปู่สีโห เขมโก

ท่านได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจจนหมดสิ้น นั่งภาวนา เดินจงกรม จะพักก็เวลาฉันกับทํากิจสงฆ์อันสมควร แม้กระนั้น สติก็มิได้ขาดตอน กําหนดเป็นอารมณ์เสมอๆ

ต่อมาท่านพระอาจารย์จันทร์ และพระอาจารย์เกียงได้พากันออกเดินธุดงค์กรรมฐาน บุกป่าฝ่าดงกันมา บางแห่งได้บําเพ็ญสมณธรรมนานวัน จนมาถึงนครราชสีมา

ท่านได้เข้านมัสการ ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม และได้รับอุบายธรรมปฏิบัติใหม่ๆ ทุกวัน จนจิตใจแก่กล้ามั่นคงแล้ว ท่านได้กราบลาออกเดินธุดงค์ร่วมกับ หลวงปู่คําดี ปภาโส วัดถ้ําผาปู่ จ.เลย

สองสหายเร่งบําเพ็ญเพียร ชนิดเอาตายกันเลย ที่เขาตระกุดรัง “นิสัยกับธรรม” ในช่วงนั้น ถูกฉุดลากจนกลมกลืนกันเลยทีเดียว และสามารถปลอดภัยจากกิเลส ตัวมารได้อย่างแน่วแน่ที่สุด !

ภายหลังหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ และ พระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต ได้นํากองทัพธรรมออกเผยแพร่ โดยมุ่งไปทางบ้านใหม่สําโรง

นอกจากนี้แล้ว ท่านได้ออก เผยแพร่ธรรมะอีกหลายแห่ง แต่ละสถานที่เดินธุดงค์ไปถึง มักจะเกิดวัดป่าขึ้นเป็นเงาตามตัว เป็น “กองทัพธรรม” ของพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต ถูกกองทัพมาร ทําลายอยู่หลายหนหลายครั้ง จนที่สุดกองทัพธรรมชนะ อย่างเด็ดขาด ด้วยคุณงามความดีโดยแท้

ที่จังหวัดอุบลราชธานี ท่าน พระอาจารย์จันทร์ ได้มีโอกาสเข้านมัสการ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และได้มาอยู่จําพรรษาที่ จ.สกลนคร บ้านนามน

“เมื่อมาอยู่ใกล้ท่าน ความพากเพียรมีกําลังมากเหลือเกิน และได้รับการอบรมทุกวัน จนได้ถือเป็นนิสัยมาโดยตลอด”

หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม
หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม

ท่านพระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต ท่านได้ถ่ายทอดเจตนาความเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นความสําเร็จสมความตั้งใจของท่านแล้วอย่างสิ้นเชิง เพื่อลูกศิษย์ลูกหาทั้งปวง จะได้ยึดเอาทางคุณงาม ความดีประกอบสิ่งที่เป็นคุณเป็น ประโยชน์ต่อไป

หลวงปู่จูม พันธุโล
แถวหน้า จากซ้าย : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี,
พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล),
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ

แถวหลัง จากซ้าย : หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ,
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, พระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต

หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต ได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘ เวลา ๐๕.๓๕ น. ตรงกับวันแรม ๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีเถาะ สิริอายุรวมได้ ๗๑ ปี พรรษา ๔๖