ประวัติ พ่อคำมา หงษ์ทอง
จอมขมังเวทย์แห่งลุ่มน้ำแม่มูล จ.สุรินทร์
พ่อคำมา หงษ์ทอง ฆราวาสจอมขมังเวทย์ ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญไสยเวทย์ในทุกๆแขนง แห่งลุ่มน้ำมูล ดินแดนอีสานใต้ จังหวัดสุรินทร์
พ่อคำมา หงษ์ทอง จอมขมังเวทย์แห่งอีสานใต้ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากเกจิดังมากมาย แต่มักไม่ค่อยได้เปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ ด้วยความที่ตัวพ่อคำมาท่านเองเป็นคนสมถะ ไม่ยึดติดกับชื่อเสียงและเงินทอง ทำให้ชื่อเสียงของท่านอาจจะเป็นเพียงการการรู้จักแค่ในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาเท่านั้น แต่ถ้าลองได้รู้ว่าท่านเรียนวิชามาจากพระอาจารย์ผู้ใดบ้าง รับรองได้ว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ประกอบกับวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังอีกมากมายที่พ่อคำมาท่านได้เมตตาเสกไว้ ล้วนมีประสบการณ์จริงที่ไม่จำเป็นต้องโฆษณา
ประวัติ พ่อคำมา หงษ์ทอง เป็นการยากที่จะเรียบเรียงและเขียนได้ครบถ้วน เนื่องจากประวัติของพ่อคำท่าน ค่อนข้างไม่ประติดประต่อ เพราะท่านไม่ค่อยได้พูดติดต่อกันเป็นเรื่องราว ต้องอาศัยตอนที่ได้ไปพบกับท่านที ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังที บางครั้งก็เป็นการถามตอบเรื่องโน้นเรื่องนี้ พ่อคำท่านก็เล่าเรื่องราวย้อนหลังให้ฟัง ด้วยเหตุนี้เองในชีวประวัติพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่จะได้ทำการถ่ายทอดเรื่องราวนี้ จะเขียนในเฉพาะเรื่องราวที่ได้ฟังมาจากปากท่านเท่านั้น และสิ่งไหนที่ไม่ได้ยินมาจากปากท่านก็จะไม่เขียนลงไป เพื่อความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งหากมีข้อมูลตกหล่นลงไปบ้างก็ต้องกราบขออภัยต่อท่านผู้อ่านเป็นอย่างสูง
ในส่วนของวันเดือนปีเกิดของพ่อคำมา หงษ์ทอง ไม่สามารถระบุชี้ได้ชัดเจน เนื่องจากท่านเองได้มีการทำบัตรประชนในภายหลัง ซึ่งไม่ตรงกับวันเดือนปีเกิดจริง อย่างไรก็ดี ผู้เขียนเคยได้กราบเรียนสอบถามกับพ่อคำมา เมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๘ ท่านบอกว่าอายุท่าน ๘๐ ปี กว่าปี
โดยในสมัยวัยเด็กของ พ่อคำมา ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงอายุประมาณ ๑๔-๑๕ ปี โดยในช่วงที่บวชเป็นสามเณรก็ได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี จากได้ก็ได้เริ่มออกธุดงค์ และได้ไปเรียนกับ หลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาสรรพวิชาที่อื่นต่อ จนย่างเข้าสูวัยรุ่นก็ลาสิกขา และเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มก็ได้มาแต่งงานกับภรรยาคนแรกที่เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ และได้มีบุตรด้วยกัน ๒ คน โดยหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนแรกไปสักระยะหนึ่งก็มีเหตุขัดข้องใจกับพ่อตา เป็นเหตุให้พ่อคำ ท่านเกิดความหน่ายในทางโลกและได้ตัดสินใจกลับไปบวชอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เองพ่อคำท่านได้ไปศึกษาวิชาจากหลวงพ่อถึก, หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด) จนเดินทางไปได้พบอีกสุดยอดเกจิอาจารย์และได้ศึกษาสรรพวิชาจาก หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล และ หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต โดยเมื่อครั้งที่ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับ หลวงปู่ผาง พ่อคำมาได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ผางให้ช่วยเสกเหรียญของหลวงปู่ผางอยู่หนึ่งรุ่น หลังจากที่พ่อคำมาได้ศึกษาสรรพวิชาจากครูบาอาจารย์จนเจนจบแล้ว ก็ได้มาจำพรรษาที่บ้านหนองมะแซว อำเภอธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และได้ช่วยสร้างวัดที่นี่และเป็นเจ้าอาวาสช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบเรื่อยมา
◉ สรุปรายชื่อครูบาอาจารย์ของพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่ท่านได้ศึกษาสรรพวิชา
๑.หลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี
๒.หลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง
๓.หลวงพ่อถึก (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๔.หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๕.หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
๖.หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต
๗.ตาชีปะขาว (เคยได้ฟังพ่อคำมาเล่าเรื่องชีปะขาว กับหลวงปู่เทพโลกอุดร)
๘ ฯลฯ
ในช่วงที่ พ่อคำมา ได้บวชอยู่นั้น ได้มีผู้มาขอลองวิชาชื่ออาจารย์แก้ว จนพ่อคำมาได้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นกับตา จนได้กราบขอฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมานับแต่นั้นเป็นต้นมา เรียกได้ว่าเป็นศิษย์ยุคแรกของพ่อคำมาที่ท่านรับเป็นศิษย์ หลังจากที่อาจารย์แก้วได้ฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาแล้วนั้น อาจารย์แก้วก็ได้ไปชวนอาจารย์เฉลิมชัย วัดครืมในหนองนาหล้า และก็โยมอีกท่านหนึ่งชื่อสมบูรณ์ บ้านเหล่าหาด ไปเรียนวิชาจากพ่อคำมาด้วยกันทั้ง ๓ คน ซึ่งเป็นศิษย์ยุคแรกๆของพ่อคำมา ซึ่งศิษย์ในยุคนั้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คงเห็นจะเป็นอาจารย์แก้ว
ช่วงก่อนที่อาจารย์แก้วจะไปขอเรียนวิชากับพ่อคำมา ท่านก็ได้เล่าอิทธิปาฏิหาริย์ของพ่อคำมา เนื่องด้วยในยุคนั้นพ่อคำมามีกิติศัพท์ด้านคงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือ อาจารย์แก้วจึงได้เดินทางไปพบพ่อคำมา เมื่ออาจารย์แก้วได้พบพ่อคำมา จึงได้เอ่ยถามกับพ่อคำมาว่า..“มีวิชามหาอุดคงกระพันไหม” พ่อคำมาก็เลยตอบกลับอาจารย์ไปว่า.. “เอ้ย!! ไม่มีหรอกน้อง อุดธัง อุดโธ อุดปากกระบอก ปืนมันก็เป็นรูอยู่เหมื่อนเดิมนั่นแหละ” เมื่ออาจารย์แก้วได้ฟังแบบนั้นก็ไม่พอใจพ่อคำมาเป็นอย่างมาก ท่านก็เลยชวนเพื่อที่ไปด้วยชื่อถมกลับ พร้อมพูดว่า.. “เฮ้ยถม!! กลับเว้ย กูนึกว่าจะมีอะไรดี” เมื่อพ่อคำได้ยินอาจารย์แก้วพูดแบบนั้นจึงพูดสวนกลับไปว่า.. “เฮ้ยน้อง มึงอย่าเพิ่งกลับ มึงดูอะไรนี่” พร้อมหยิบมีดโกนตราตา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความคมมากในสมัยนั้น มาทำการปาดลิ้น ปาดคอตัวเองให้ดู เมื่ออาจารย์แก้วและโยมถมได้เห็นเช่นนั้น ก็ได้รีบเข้าไปกราบขอขมาและฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้นชื่อเสียงของ พ่อคำมา ก็ได้โด่งดังไปทั่วจังหวัดร้อยเอ็ด มีลูกศิษย์ลูกหามาทำการสักยันต์และขอเรียนวิชากันมากมาย อักขระยันต์ที่พ่อคำมาได้สักและได้เขียนลงบนแผ่นตะกรุดให้กับลูกศิษย์ล้วนมีประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือ ทำให้มีคนมาขอลองของกันมากมาย ครั้งหนึ่งยุคหลังช่วงท้ายก่อนที่พ่อคำมาจะลาสิกขา ได้มีคนมาท้าลองของกับท่าน โดยได้พูดปรามาสท่านว่า.. “ไหนอาจารย์คำ เขาว่ายิงอาจารย์คำไม่ออกจริงหรือปล่าว” ซึ่งทำให้พ่อคำมาไม่พอใจต่อคำปรามาสนั้นเป็นอย่างมาก ทำให้ท่านได้กล่าวออกไปว่า.. “เฮ้ย !! มึงจะมายิงพระได้ยังไง ยิงพระมันบาป ถ้าอยากจะยิงจริงๆให้กูสึกก่อน” วันเวลาผ่านไปจวบจนกระทั่งพ่อคำมาได้ลาสิกขา พ่อคำมาได้นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียวไปหาผู้ที่เคยกล่าวปรามาสไว้กับท่าน และพูดไปว่า.. “อยากยิงมึงยิงเลย” สิ้นเสียงท้าของพ่อคำมา ผู้ที่ลองของพ่อคำมาได้ขว้าอาวุธปืนและเล็งยิงเข้าไปที่พ่อคำ แต่ปืนยิงไม่ออก พ่อคำมาจึงเดินเข้าไปหาและบอกพวกคิดจะลองดีพวกนั้นว่า.. “ถ้ายิงไม่ออกคราวนี้กูยิงมึงมั่ง” หลังจากเหตุการณ์นั้นพ่อคำมา ก็ได้เดินทางออกจากบ้านหนองมะแซว กลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์และใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน
พ่อคำมา หงษ์ทอง ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราอย่างสงบ เมื่อเมื่อช่วงเช้า วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๘ สิริอายุตามบัตรประชาชน ๗๑ ปี โดยถึงแม้พ่อคำมาจะจากไปแล้วแต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหามากมายเป็นที่เคารพและศรัทธาต่อศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทยจนถึงปัจจุบัน
◉ คาถามนต์มหาเมตตา อ.คำมา หงษ์ทอง
นะโมพุทธายะ นะชื่น โมชม เป็นมหานิยมของคนทั้งปวง จะเรืองเรื่่อง ยะประเสริฐเลิศมนุษย์ บุรุษหญิงชายรักทั่วเมือง จะเรืองหานาวา จงมาประสิทธิเม นะกะโรโหตุ สัมภะโว จงมาบังเกิดขึ้นเป็น นะเมตตา อะเมตตา อุเมตตา สัพพะเสน่หา นะมามีมา มนุษย์จงมา เมตตาจิตตัง เอหิภันทัง จิตตังภันทัง เทวามนุษย์สานัง นะมามิหัง….
◉ ด้านวัตถุมงคล
พ่อคำมา หงษ์ทอง ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เหรียญ งั่ง ขุนแผน ตะกรุด สีผึ้งว่านโพรง ทุกอย่างล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของลูกศิษย์ลูกหา ทั้งคนไทยและต่างพระเทศ เพราะวัตถุมงคนของท่านมีประสบการณ์ให้เห็นมากมายโดยเฉพาะเรื่องเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ อาทิ
งั่งเขี้ยวเพชร (ขุนเผด็จ) พ่อคำมา หงษ์ทอง สร้างจากมวลสารอาถรรพ์ได้แก่ งั่งพ่อคำมา งั่งเขมรโบราณ แม่เป๋อหลวงปู่ฤทธิ์ อ.เปล่ง บุญยืน แม่เป๋อเขมร ปิดตานางพราย หลวงปู่ธรรมรังษี ช้างผสมโขลงหลวงพ่อน้อย ปลัดขิกหลายเกจิอิ่นล้านนา กระต่ายเสพนางครุบาวัง แพะมหาเฮงหลวงพ่อเหลือ กำไลโบรารตะกรุดเสน่ห์มอญ อ.ประคอง ขุนแผนชาติพยัคฆ์ฟ้าคำรณ ลูกสะกดหลวงปู่หงษฺ์ปลัดขิกหลวงพ่อยิดจิ้งจกวัดบางพระตะขอสับช้างตะแกรงเผาผีกำลสำริดโบราณแหวนปลอกมีดหลวงพ่อขีดแผ่นจารยันต์พระเกจิสายเขมร ตะปูสังฆวานร เงินปากผี
วัตถุมงคลชุดนี้สร้างขึ้นในวาระฉลองอายุ ๘๐ ปี ในปีพ.ศ ๒๕๕๔ เป็นเหรียญรุ่นแรกที่ลูกศิษย์สาย อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาครูบาอาจารย์ จำนวนการสร้างเหรียญเนื้อเงินมี ๓๐ เหรียญ นวโลหะ ๓๓ เหรียญ อัลปากา ๘๓ เหรียญ เหรียญฝาบาตร ๘๕ เหรียญ เหรียญตะกั่ว ๘๘ เหรียญ เครื่องรางได้แก่มีดควาญช้าง ๑ เล่ม มีดหมอขนาด ๘ นิ้ว ๑๖ เล่มมีดปากกาแบบพกพา ๑๓ เล่ม ล๊อกเก็ตรูปภาพหลังแผ่นตะกั่วมีจาร ๑๒ ชิ้น มวลสารในครั้งนี้ได้รับความกรุณาจากหลวงพ่อเมียน กัลยาโน วัดบ้านจะเนียง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ และชนวนมวลสารจากอาจารย์ คำมา หงษ์ทอง และชนวนมวลสารจากสายเทพคือเทพนาโค และมวลสารพิเศษสำหรับสร้างมีดหมอเหล็กน้ำพี้ได้แก่ตะปูโบสถ์เก่าเหล็กสังขวานร ตะปูตอกโลงผีเป็นต้น