ประวัติและปฏิปทา
พระอาจารย์แค เมตตจิตโต
วัดสวนธัมมานุสรณ์ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
พระอาจารย์แค เมตตจิตโต พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งอีสานใต้ แห่งวัดสวนธัมมานุสรณ์ ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
พระอาจารย์แค หรือ พระเมตตัญจะ เมตตจิตโต วัดป่าธรรมานุสรณ์ (สวนธัมมานุสรณ์) ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่สิงห์ วัดโบสถ์/วัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ และเป็นผู้สืบทอดวิชาสาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จากโยมปู่ และวืชาปลัดขิกสายหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
เมื่อตอนเด็กอายุ ๙-๑๐ ขวบ เด็กชายแคได้เข้าวัด อยู่เป็นประจำ เด็กชายแคได้เห็นความไม่เที่ยงสิ่งต่างๆ ในรอบตัว จึงเกิดความเบื่อหน่าย จึงได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรตอนอายุ ๑๓ ปี ที่วัดโบสถ์ กับหลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร วัดโบสถ์ ต.กุดหวายอ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เพื่อศึกษาธรรม ฝึกกรรมฐาน ฝึกข้อวัตรปฏิบัติ และร่ำเรียน วิชาอาคมต่างๆ
และต่อมาใน ปี พ.ศ.๒๕๕๓ ได้ขออนุญาต หลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร ออกธุดงค์ เพื่อแสวงหาที่วิเวก ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อฝึกจิต ภาวนากรรมฐาน บางครั้งก็ไปองค์เดียวบ้าง บางครั้งก็ได้ไปกับพระสงฆ์ บางสถานที่ที่ไปเช่น เขมร ลาว และเดินธุดงค์ขึ้นทางภาคเหนือ ได้เดินทางต่อไปยังถ้ำผาขาว จ.ตาก ซึ่งอยู่ในป่าลึกเข้าไป ติดกับชายแดนพม่า ไปอยู่เพียงรูปเดียว อยู่กับชาวเขา เผ่ากะเหรี่ยง ได้ฝึกกรรมฐาน อยู่ที่ ถ้ำผาขาว เวลา ๑ พรรษา
ต่อมาเมื่ออายุ ๑๙ ปี ได้ย้อนกลับมาจำพรรษา วัดสีหะลำดวน ต.ระแงง จ.สุรินทร์ ได้อยู่ดูแล อุปฐากดูแลหลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร กระทั่งมีอายุ ครบ ๒๐ ปี จึงญัตติเป็นพระภิกษุได้จำพรรษา ที่วัดโบสถ์ ได้อยู่ดูแลอุปฐากหลวงปู่สิงห์ อีก ๑-๒ พรรษา
จากนั้นจึงได้ขออนุญาต หลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร ออกธุดงค์ อีกครั้ง เพื่อหาที่วิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ตามสถานที่ต่างๆ อีกครั้งเพื่อฝึกกรรมฐาน บริเวณป่าในแถบประเทศกัมพูชา จึงได้ไปเจอครูบาอาจารย์สายฆราวาส ชื่อ ตาปรึก ที่ จ.สุรินทร์ แถว อ.บัวเชด แถบติด ไทย-กัมพูชา ท่านได้ถ่ายทอดวิชา ที่ร่ำเรียน มาจาก หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์ ให้แก่ พระอาจารย์แค เมตตจิตโต จนหมดสิ้น
หลังจากนั้น พระอาจารย์แค เมตตจิตโต ได้ออก ธุดงค์ ต่อไปยัง ประเทศกัมพูชา และกลับมาที่ไทย ข้ามไปยังฝั่งลาว ได้ไปเจอ ครูบาอาจารย์ อีกหลายๆ ท่าน และศึกษาธรรมกรรมฐาน และวิชาอาคมต่างๆ จาก ครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน เช่น ครั้งหนึ่งธุดงค์ถึง จังหวัดสระแก้ว ได้เจออาจารย์ฆราวาส ซึ่งเป็นศิษย์ของ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ อาจารย์ได้ถ่ายทอด วิชาสร้างและเสกปลัดขิก ของ หลวงพ่ออี๋ ให้จนหมดสิ้นและยังได้เรียนวิชาตบทอง ลงนะ จากอาจารย์ฆราวาสท่านนี้ด้วย และ วิชาสาริกาลิ้นทอง โบราณ ๑๒ บท อาคมจาก พระสงฆ์ และ ฆราวาสผู้เรืองเวทย์ ที่แทบชายแดน ไทย กัมพูชา และได้ศึกษาธรรมกรรมฐานจากครูบาอาจารย์ อีกหลายๆ ท่าน และกลับมาจังหวัดมุกดาหาร
และถึงปี พ.ศ.๒๕๕๓ พระอาจารย์แค ท่านได้ทราบข่าวว่า หลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร ได้อาพาธหนัก พระอาจารย์แค จึงได้เดินทางกลับมาที่วัดสีหะลำดวน เพื่อดูแล หลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร อีกครั้ง ได้อยู่ดูแลอุปฐากหลวงปู่สิงห์ เป็นเวลา ๔ ปีกว่า กระทั่งหลวงปู่สิงห์ ธัมมสาโร มรณภาพลง
หลังจากนั้น พระอาจารย์แค ได้อยู่จำพรรษาที่วัดโบสถ์ อีก ๑ พรรษา ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๖๑ คุณประสบชัย แก้ววิเชียร ได้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินสร้างวัด และนิมนต์พระอาจารย์แค มาอยู่สร้างวัดขึ้นใหม่ ได้ชื่อว่า วัดป่าธรรมานุสรณ์ (สวนธัมมานุสรณ์) บ้านท่าด่าน ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ท่านจึงเริ่มนำคณะศรัทธาและชาวบ้านบุกเบิกสร้างเสนาสนะต่างๆภายในวัด เช่น กุฏิ ศาลา ห้องน้ำ โดยนำปัจจัยที่ญาติโยมนำมาร่วมบุญเป็นทุนดำเนินการก่อสร้างเรื่อยมารวมเวลา ๗ ปี ถึงปัจจุบันนี้วัดได้เจริญงดงามใหญ่โตแทบไม่น่าเชื่อ
อุปนิสัยของ พระอาจารย์แค นั้น ท่านเป็นพระผู้ให้ ไม่เน้นสะสม ดำรงตนแบบสมถะเรียบง่าย ท่านจะลงมือทำงานด้วยตัวเองแทบจะทั้งวันในวัด ปัจจัยที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญมา ท่านจะนำไปสร้างบุญสร้างวัดเสมอ แต่ท่านไม่ค่อยบอกใคร ท่านปิดทองหลังพระมาตลอดจนทุกวันนี้
ปัจจุบัน ปี พ.ศ.๒๕๖๖ พระอาจารย์แค เมตตจิตโต ท่านมีอายุ ๓๑ ปี ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ วัดสวนธัมมานุสรณ์ บ้านท่าด่าน ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
◉ ด้านวัตถุมงคล
ท่านพระอาจารย์แค เมตตจิตโต ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ ตะกรุด ตะกรุดตัดสายรุ้ง หลังจากทำพิธีปลุกเสกเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงทำการทดลองตามคำบอกของครูบาอาจารย์ว่า ถ้าหากอฐิษฐานตะกรุดแล้วตัดสายรุ้งขาด เป็นอันใช้ได้ จึงเป็นที่่มาของชื่อเรียกตะกรุดรุ่นนี้
ตะกรุดสยบพยัคฆ์ หลังจากทำการจารย์อักขระเลขยันต์ม้วนตะกรุดแล้วถักเสร็จเรียบร้อยทำพิธีปลุกเสกขณะที่ปลุกเสกขวานมีดปืนที่พระอาจารย์นั่งหยียบทับเกิดการขยับตัวจนมีเสียงดัง ตะกรุดเด้งออกมาจากขัน แล้วจึงได้นำมาให้ลูกศิษย์ได้บูชาร่วมบุญสร้างศาลาและพกติดตัวป้องกันอันตรายต่างๆ
เและเหรียญรุ่นต่างๆ อีกหลายรุ่น ซึ่งวัตถุมงคลของท่าน พระอาจารย์แค เมตตจิตโต รุ่นต่างๆ ล้วนมีประสบการณ์มากมายแทบทุกรุ่น