วันอังคาร, 3 ธันวาคม 2567

ญาคูหา อโสโก วัดสระพังทอง (บ้านหนองย่างชิ้น) อ.เรณูนคร จ.นครพนม

ประวัติและปฏิปทา
ญาคูหา อโสโก
วัดสระพังทอง บ้านหนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม

ญาคูหา อโสโก วัดสระพังทอง (บ้านหนองย่างชิ้น) อ.เรณูนคร จ.นครพนม
ญาคูหา อโสโก วัดสระพังทอง (บ้านหนองย่างชิ้น) อ.เรณูนคร จ.นครพนม

พระครูสุวรรณสารวิจิตร (ญาคูหา อโสโก) วัดสระพังทอง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองนครพนม ที่ชาวชนเผ่าผู้ไทเรณูนคร และจังหวัดใกล้เคียงเคารพเลื่อมใสศรัทธา

◎ ชาติภูมิ
พระครูสุวรรณสารวิจิตร (ญาคูหา อโสโก) มีนามเดิมว่า “หา โพธิ์ชัย” เกิดวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๓ ปีขาล พื้นเพเป็นชาวบ้านดงมะเอก ต.โพนทอง อ.เรณูนคร จ.นครพนม บิดาชื่อ “นายไล โพธิ์ชัย” และมารดาชื่อ “นางบุญมาย ยศสุรีย์” เป็นบุตรคนที่ ๓ ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร ๔ คน

หลังจบชั้น ป.๔ ใฝ่รู้ร่ำเรียน กศน.จนจบชั้น ม.๖ ที่โรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล

◎ อุปสมบทครั้งแรก
อายุครบ ๒๐ ปี พ.ศ.๒๕๑๖ อุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดศรีบุญเรือง อ.เรณูนคร โดยมี พระครูเขมคุณสุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชได้แค่ ๒ วันมีปัญหาหนักใจ ให้ครุ่นคิดจึงลาสิกขา

◎ อุปสมบทครั้งที่สอง
จึงบวชใหม่รอบ ๒ ที่พัทธสีมาวัดบูรพาราม ต.โพนทอง โดยมี เจ้าอธิการทองดำ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาธวัช ธัมมเตโช เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการพิทูล อัตถาโม เป็นพระ อนุสาวนาจารย์

กราบลาอุปัชฌาย์ ไปฝากตัวเป็นศิษย์เอก พระครูภาวนาภิรัตน์ หรือ หลวงปู่แพงตา เขมิโย วัดประดู่วีระธรรม ต.กุดตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม พระเกจิชื่อดังรุ่นพี่ที่ไปมาหาสู่กับ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ โดยตลอด

หลังร่ำเรียนกัมมัฏฐานกับหลวงปู่แพงตานาน ๓ ปี ต่อมาจึงไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโท เทพเจ้าแห่งบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นญาติกับบุพการีได้ระยะหนึ่ง จึงร่ำลาไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับ หลวงปู่ทองทิพย์ วัดบ้านฝายแตก อ.เมือง จ.หนองคาย

หลังธุดงค์ตระเวนร่ำเรียนวิชา จึงกลับมาช่วยงานปริวาสกรรมหลวงปู่แพงตา อยู่ช่วยงานท่านขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยากควบคู่ไปด้วย จนหลวงปู่แพงตา ผู้เป็นอาจารย์ได้ ละสังขาร เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ ก็อยู่ช่วยจนงานแล้วเสร็จ

หลังสอบได้เปรียญธรรม ๖ ประโยค ก็มาบุกเบิกพัฒนาวัดสระพังทอง ต.โพนทอง (ในขณะนั้น) จนพัฒนามีเสนาสนะเจริญรุ่งเรือง ในปัจจุบัน สร้างพระพุทธรูป ๑๖๔ องค์แทนกำแพงแก้วรอบอุโบสถ ศาลาอเนกประสงค์ และสร้างเจดีย์ทรงระฆังคว่ำครอบหอระฆังสูง ๒๓ เมตร

จึงตระเวนเดินสายพัฒนาสร้างวัด เพชรน้ำผึ้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี สร้างพระพุทธรูปเป็นกำแพงรอบโบสถ์ ๑๗๔ องค์ จึงข้ามไปที่วัดบ้านมณีราช แขวง สะหวันนะเขต สร้างพระพุทธรูปดังกล่าวรอบโบสถ์อีก ๑๐๘ องค์

เหตุที่ชอบตระเวนสร้างพระพุทธรูปรอบอุโบสถวัดหลายแห่ง ญาคูหาให้เหตุผลว่า บ่อยครั้งที่พบเห็นชาวบ้านไหว้กำแพงวัด จึงสร้างพระพุทธรูปให้ชาวบ้านกราบไหว้เสียเลย

ในช่วงปัจฉิมวัย ยังไปสร้างศาลาอเนกประสงค์ หอสวดมนต์ โรงครัว กุฏิ ๑๒ หลัง สำนักสงฆ์หนองแดง บ.น้อยหนองพอก ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ที่จำพรรษา หลวงปู่รัศมี ธัมมจาโร พระเกจิชื่อดังแห่ง อ.ปลาปาก

จึงวกกลับมาพัฒนาวัดมาตุภูมิสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกสูง ๙ เมตร ปากทางเข้าประตูวัดสระพังทอง และพระปางไสยาสน์ ยาว ๓๖.๑๔ เมตร กว้าง ๔ เมตรสูง ๗ เมตร แทนกำแพงหน้าวัด สิ้นงบ ๑ ล้านบาท อยู่ระหว่างสร้างพญานาครอบฐาน เพื่อให้ชาวพุทธได้กราบไหว้

จะไม่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล หนองย่างชิ้น หรือแม้แต่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระพังทอง ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ

ปัจจุบัน พระครูสุวรรณสารวิจิตร (ญาคูหา อโสโก) วัดสระพังทอง ท่านมีอายุ ๗๓ ปี (พ.ศ.๒๕๖๖) บางครั้งท่านจะสลับไปจำพรรษาและพัฒนาสำนักสงฆ์อโศการาม บ้านเหล่ากกตาล ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร ซึ่งอยู่ห่างจากวัดสระพังทอง ๔-๕ กิโลเมตร

◎ ด้านวัตถุมงคล
ด้านวัตถุมงคลที่คณะลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธา ได้จัดสร้างไปแล้ว ๔-๕ รุ่น แต่ละรุ่นล้วนนำปัจจัยไปถวายสมทบวัดสร้างอุโบสถ และศาลาการเปรียญวัดหลายแห่ง โดยเฉพาะ เหรียญ รุ่นแรก ญาคูหา อโสโก รุ่นฉลองอุโบสถวัดนาเจริญ เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสม ไปแล้ว

เหรียญรุ่นแรก พระครูสุวรรณสารวิจิตร ญาคูหา อโสโก วัดสระพังทอง อ.เรณูนคร จ.นครพนม
เหรียญรุ่นแรก พระครูสุวรรณสารวิจิตร ญาคูหา อโสโก วัดสระพังทอง อ.เรณูนคร จ.นครพนม